สลด พ่อพาลูกสาวและหลาน 5 คนนั่งรถอีแต๋น ตั้ใจขนทรายริมแม่น้ำมูลไปซ่อมบ้าน สุดท้ายทรายดูดเสียชีวิตสลด 5 ศพ พบร่างกอดกันก่อนสิ้นใจ
เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 11 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา มติชน รายงานพบเหตุสลด มีผู้จมน้ำเสียชีวิต 5 ราย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์รีบเดินทางไปช่วยค้นหาเบื้องต้นทราบว่า เป็นชายอายุ 45 ปี ลูกสาว อายุ 23 ปี หลานวัย 14 ,11 และ 8 ปี รวม 5 คน โดยพบรถอีแต๊ก(รถไถนาเดินตาม) กับตัวพ่วง จอดอยู่ในแม่น้ำมูลเขต ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เขตติดต่อ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์
ต่อมาหลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. จึงพบศพแรกเวลา 22.18 น. จากนั้นเวลา 23.03 จึงพบรายที่ 5 ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า โดยเฉพาะครอบครัวพากันร้องไห้ระงม
เบื้องต้นทราบว่า ผู้เป็นพ่อขับรถอีแต๋นพาลูกสาวพร้อมหลานๆ มาเอาทรายในแม่น้ำมูลไปปรับปรุงบ้าน ตั้งแต่เช้าแล้วหายตัวไป ญาติตามหาพบเพียงรถอีแต๋นจอดอยู่ กู้ภัยค้นหาพบร่างอยู่ในบ่อทรายทีละคนทั้งหมดเสียชีวิต คาดถูกทรายแม่น้ำมูลดูดร่างขณะขนทรายขึ้นรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง
เพจดัง เผยสาเหตุการเสียวีชิต ยังไม่สรุปเป็นเพราะทรายดูด
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า ได้เคลื่อนไหวด้วยการออกมาโพสต์ถึงกรณีพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ถึงจตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปว่ามาจากทรายดูดหรือจมน้ำเสียชีวิตกันแน่ ยังไงขอให้รอข้อทเท็จจริงในการสรุปสาเหตุปมสลดนี้อีกครั้ง
“ที่จริงเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปแน่ชัด ว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากทรายดูดหรือจมน้ำกันแน่นะครับ ต้องชันสูตรศพกันต่อไป แต่ถ้าใครเจอเหตุการณ์ทรายดูดกับตัว อย่าตกใจ อย่าดิ้น เพราะมันจะทำให้เรายิ่งจมลงไป ที่ควรทำก็คือให้พยายามหงายหน้าขึ้นฟ้า และเอนตัวนอนหงาย เพื่อให้ความเร็วในการดูดซึมต่ำลง ท่านี้ช่วยลดแรงกดที่ร่างกายของเรา แล้วว่ายกวาดแขวนอย่างช้าๆ จะทำให้เราหลุดจากทรายดูดได้”
“หรือพอนอนหงายแล้ว อาจจะค่อยๆกลิ้งตัว หรือค่อยๆเลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไปเกาะขอนไม้ หรือเกาะขอบทรายแข็งๆ แล้วค่อยๆก้าวขาขึ้นมาที่ผิวของทรายอย่างช้าๆก็ได้ อย่าก้าวเร็ว เพราะถ้าก้าวเร็วจะทำให้เกิดสุญญากาศ ซึ่งจะถูกดูดให้จมลงเร็วขึ้นไปอีก อย่าลืมสูตรนอนหงายแล้วกางแขนให้มากที่สุด จะช่วยให้เราลอยอยู่ได้และหลุดจากทรายดูดครับ” ข้อความจากโพสต์ของเพจหมอแล็บแพนด้า.
