อ.ธรณ์ เจ็บใจ ช่วยคนติดน้ำท่วมไม่ได้ ถอดบทเรียนหาดใหญ่

วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ อ.ธรณ์ เจ็บใจ คนขอความช่วยเหลือแต่ช่วยไม่ได้ ย้ำกฏเหล็ก ต้องเตรียมพร้อม เช็คข้อมูลรอบด้าน เตรียมเสบียง-ยา-ทางหนีทีไล่ให้พร้อม รับมือภัยพิบัติรุนแรงขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังพบข้อความขอความช่วยเหลือจำนวนมากจากประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือนท่ามกลางความมืดและกระแสน้ำเชี่ยว เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนถึงภัยพิบัติจากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงน้ำท่วมสูง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่า ฝนตกหนักและอุทกภัยจะเกิดขึ้นถี่กว่าเดิมและรุนแรงขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับในอดีต
“อ่านเมนต์ขอความช่วยเหลือของคนติดน้ำท่วมที่หาดใหญ่จนเกือบเช้า เจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ จึงเขียนเรื่องถอดบทเรียนจากหาดใหญ่ เราเตรียมรับมือน้ำท่วมยุคโลกร้อนได้อย่างไร ? เผื่อมีประโยชน์สักนิดก็ยังดี”
“เมืองไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศเสี่ยงน้ำท่วมจากโลกร้อนมากที่สุด ภัยน้ำท่วมใหญ่จะถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตามอุณหภูมิโลก
จาก 3-4 เท่าในช่วง 1.5 องศา กลายเป็นสิบๆ เท่าเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
ในอีก 30-40 ปี อาจทะลุ 2 องศา และไปจบที่ 2.6 องศาในอีก 75 ปี หากโลกยังเป็นเช่นนี้
หากเราอยู่ในเขตนั้น เพิ่มความระวังมากสุด โดยเฉพาะในปีที่มีสัญญาณเตือน”

หลักการสำคัญที่สุดในการเอาตัวรอดคือต้องพยายาม “ไม่พาตัวเองไปเป็นผู้ประสบภัย” เนื่องจากข้อจำกัดในการกู้ภัยยามค่ำคืนที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งกระแสน้ำเชี่ยว ความมืด และสิ่งกีดขวางใต้น้ำ การรอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวจึงเป็นเรื่องยากลำบาก ประชาชนจำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงของพื้นที่อยู่อาศัยโดยอ้างอิงจากประวัติภัยพิบัติและข้อมูลสภาพอากาศ ติดตามข่าวสารจากหลายแหล่งเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
หากข้อมูลเริ่มบ่งชี้ถึงอันตรายหรือไม่มั่นใจสถานการณ์ ให้ตัดสินใจถอยออกมาตั้งหลักก่อนวิกฤตจะมาถึง รวมถึงต้องเตรียมพร้อมปัจจัยพื้นฐาน ทั้งอาหารแห้ง น้ำดื่ม พาวเวอร์แบงค์ และยาประจำตัว โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง ต้องวางแผนล่วงหน้าให้รัดกุมที่สุด
การเตรียมทางหนีทีไล่ภายในบ้านเป็นอีกหนึ่งเรื่องคอขาดบาดตายที่หลายคนมองข้าม บ่อยครั้งพบผู้ประสบภัยหนีน้ำขึ้นชั้นสองแต่กลับติดเหล็กดัด ทำให้ไม่สามารถออกจากตัวบ้านได้เมื่อระดับน้ำสูงเกินคาด
การจำลองเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้มองเห็นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม หากมีการแจ้งเตือนระดับน้ำสูงขึ้นและประเมินแล้วว่าโครงสร้างบ้านชั้นเดียวหรือพื้นที่ต่ำไม่ปลอดภัย ต้องรีบตัดสินใจอพยพไปอยู่ในจุดที่มั่นคงหรืออาคารสูงใกล้เคียงทันที อย่ารีรอจนน้ำปิดล้อมทางเข้าออกจนหมดหนทางหนี

บทเรียนจากเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ชี้ชัดว่านโยบายการบริหารจัดการเมืองต้องเปลี่ยนไป การเลือกผู้แทนในยุคนี้ต้องพิจารณาถึงวิสัยทัศน์ด้านการจัดการภัยพิบัติอย่างจริงจัง ระบบการเตือนภัยต้องแม่นยำ มีแผนอพยพที่ชัดเจน มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับจอดรถ และต้องมีการสำรองพลังงานสำหรับโรงพยาบาลโดยไม่ต้องร้องขอ
เป้าหมายสำคัญของการบริหารในยุคโลกเดือดไม่ใช่เพียงการสร้างความร่ำรวย แต่คือการรักษาชีวิตประชาชนให้รอดพ้นจากอันตรายและไม่จนลงจากความเสียหาย อาจารย์ธรณ์ทิ้งท้ายด้วยการส่งกำลังใจให้ชาวหาดใหญ่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกท่าน ให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างปลอดภัย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พรรคประชาชน รวมพิกัดผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ พร้อมช่องทางขอความช่วยเหลื
- “เปิ้ล นาคร” หลั่งน้ำตา เกินกำลังผมแล้วรัฐบาล หลังลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม
- “เล็ก ฝันเด่น” ลุยน้ำท่วมหาดใหญ่ ช่วยคนยืนแช่น้ำมิดคอ-น้ำแรงเจอเจ๊ตสกีล่ม
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





