เจาะลึกเหตุผล ทำไม ทักษิณ ชินวัตร ถึงพ้นผิดคดี มาตรา 112 ย้อนดูคลิปต้นเรื่องให้สัมภาษณ์ เมื่อปี 58 สู่คำฟ้องอัยการ
ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีความผิดตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีที่เขาให้สัมภาษณ์สื่อที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นคดีที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสังคมอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
คลิปต้นเรื่อง ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ กับคำพูดที่ถูกตีความ
คลิปการสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าว Chosun Media เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 ก่อนจะถูกลบไปในเวลาต่อมา แต่ยังคงเข้าดูได้จากการรีอัปโหลดในโซเชียลมีเดียของไทย เช่น สำนักข่าว MGR Online VDO ลงคลิปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567
คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2558 เมื่อทางการไทยเริ่มไต่สวนและศาลอาญาได้รับพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ ซึ่งส่งผลให้นายทักษิณถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางในเวลาต่อมา และคดีได้กลับมาเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังเจ้าตัวเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงปี 2567-2568
ล่าสุด 22 สิงหาคม ศาลดสินยกฟ้องหลังศาลอ่านคำพิพากษาเกือบ 1 ชั่วโมง ทนายวิญญัติ เผยว่า ศาลมีคำวินิจฉัยว่า การทำคลิปให้สัมภาษณ์ที่เต็มหรือมากกว่าคลิปวิดีโอเป็นเพียงบางส่วนของคำให้สัมภาษณ์ซึ่งมีถ้อยคำที่จำกัด ซึ่งศาลเชื่อว่ามีคำสัมภาษณ์จริงที่มีมากกว่านี้ คลิปที่มีมาเป็นเพียงบางส่วน โดยโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคลิปตัดต่อหรือไม่ และคำพูดของจำเลยไม่ได้เจาะจงถึงพระมหากษัตริย์ จึงยกผลประโยชน์ให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง
ในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ศาลพิจารณาแล้วว่าข้อกล่าวหาดังกล่าว ขาดน้ำหนักเพียงพอ ที่จะนำไปสู่การลงโทษ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการต่อสู้คดีของฝ่ายทนายความที่ได้นำพยานหลักฐานเข้าหักล้างอย่างมีน้ำหนัก จนศาลเห็นว่าคำพูดดังกล่าวไม่เข้าข่ายการดูหมิ่นสถาบัน
ล่าสุด ศาลเองได้เผยแพร่คำวินิจฉัยฉบับเต็ม อธิบายเหตุผลในการตัดสินอย่างละเอียดที่ยกฟ้อง ทีมข่าวไทยเกอร์ ขอแยกประเด็นได้ดังนี้
ประเด็นหลัก คำพูดพาดพิงถึงใคร?
ศาลได้วิเคราะห์ถ้อยคำที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาว่าเป็นการพาดพิงถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 หรือไม่ โดยวางหลักกฎหมายว่า การจะถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้นั้น ข้อความต้องระบุตัวตนผู้ถูกกล่าวหาอย่างชัดเจน หรือหากไม่ระบุชื่อโดยตรง คนทั่วไปที่ได้ฟัง (“วิญญูชน”) ก็ต้องเข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงใคร
จากการตรวจสอบ ศาลพบว่านายทักษิณไม่ได้เอ่ยพระนาม “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9” ออกมาโดยตรง และไม่ได้ใช้คำราชาศัพท์ใดๆ ที่จะเจาะจงถึงองค์พระมหากษัตริย์ แต่กลับใช้คำสรรพนามทั่วไปว่า “เขา” ซึ่งอาจหมายถึงบุคคลเดียวหรือหลายคนก็ได้ นอกจากนี้ ในบทสัมภาษณ์ยังมีคำว่า “องคมนตรี”, “ทหาร”, “Palace Circle” และ “คนในวัง” ปรากฏอยู่ด้วย
พยานโจทก์น้ำหนักไม่พอ ขาดความเป็นกลาง
ศาลได้ชี้ให้เห็นถึงความน่ากังขาของพยานฝ่ายโจทก์ โดยระบุว่าพยานปากสำคัญ ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและบุคคลภายนอกที่อัยการอ้างถึง ล้วนมีประวัติเคยเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่นายทักษิณทางการเมืองมาก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะมี “อคติ” ต่อนายทักษิณ ศาลจึงเห็นว่าคำให้การของพยานเหล่านี้อาจไม่เป็นกลาง และต้องรับฟังด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
น่าสนใจว่า แม้แต่พยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยอมรับในชั้นศาลว่า ในช่วงเริ่มต้นคดี พวกตนเห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้องได้ เนื่องจากไม่สามารถยืนยันได้ว่าคลิปวิดีโอเป็นต้นฉบับจริง และไม่สามารถตามหาตัวคนที่นำคลิปมาโพสต์ในโลกออนไลน์ได้
คนทั่วไปเข้าใจว่าอย่างไร?
ศาลยังได้พิจารณาไปถึงความเข้าใจของบุคคลทั่วไปที่นำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กและยูทูบตั้งแต่แรก พบว่าคนเหล่านั้นล้วนเข้าใจตรงกันว่า นายทักษิณกำลังให้สัมภาษณ์โจมตีการทำรัฐประหาร โดยพาดพิงถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และองคมนตรีเท่านั้น ไม่ได้มีใครเข้าใจว่าเป็นการสื่อความหมายไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา ศาลจึงสรุปว่า พยานหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์นำสืบมาทั้งหมด ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้ศาลเชื่อได้ว่านายทักษิณมีเจตนาพูดหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 หรือทำให้คนทั่วไปเข้าใจไปในทางนั้นได้ อัยการโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้ตามหลักกฎหมายอาญา
ส่วนข้อหา “แสดงความอาฆาตมาดร้าย” โจทก์ไม่ได้นำพยานหลักฐานใดๆ มาสืบเลย และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก็ตกไปด้วย เพราะเมื่อคำพูดไม่เป็นความผิด การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จึงไม่เป็นความผิดเช่นกัน ศาลจึงพิพากษายกฟ้องนายทักษิณในทุกข้อกล่าวหา
- ด่วน! ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลี
- ทนาย มั่นใจคดี ม.112 ชี้เป็นคลิปตัดต่อ ไม่ได้มาจากคำพูดของ “ทักษิณ”
- เปิดคำต่อสู้คดี “แพทองธาร” แจงยิบทุกถ้อยคำ อ้างเทคนิคเจรจาชั้นสูง ขอกลับทำหน้าที่นายกฯ
อ้างอิง : iLaw, PRACHATAI ENGLISH
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
