
ผู้ประกันตนเฮ บอร์ดประกันสังคม เห็นชอบ เงินบำนาญชราภาพสูตรใหม่’ ม.33-39 ได้เงินเกษียณเพิ่ม
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 กับ มาตรา 39 ทุกคน คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบในหลักการปรับ สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพสูตรใหม่ หรือสูตร CARE ให้กับผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 และ 39 ซึ่งหมายความว่า ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญในวัยเกษียณเพิ่มขึ้น
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า การปรับสูตรครั้งนี้เป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกันตนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เกษียณอายุไปแล้วกว่า 8 แสนคน จะได้รับการพิจารณาปรับเพิ่มเงินบำนาญให้เหมาะสม หากสูตรใหม่ทำให้ได้รับเงินน้อยลง ก็จะปรับให้ได้รับเท่าเดิม แต่ถ้าได้รับเพิ่มขึ้น ก็จะปรับเพิ่มให้เช่นกัน
เงินบำนานชราภาพสูตรใหม่ คำนวณอย่างไร
การปรับสูตรใหม่นี้จะคำนวณจากเงินเฉลี่ยตลอดอายุการทำงาน ตามฐานเงินเดือน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนได้รับสวัสดิการที่เป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 39 กว่า 3 แสนคน และผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่อาจเสียประโยชน์จากค่าจ้างในช่วงท้ายของการส่งเงินสมทบ
นายมนตรี ฐิรโฆไท บอร์ดประกันสังคมฝั่งนายจ้าง กล่าวว่า การปรับสูตรครั้งนี้ผ่านการทบทวนอย่างละเอียดจากนักคณิตศาสตร์ประกันภัย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกันตนทุกกลุ่ม หลังจากนี้จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกันตนผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์ เพื่อนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เงินบำนาญสูตรใหม่นี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตมากขึ้น
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี บอร์ดประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตน กล่าวว่า “จากนี้ท่านจะได้รับบำนาญที่เป็นธรรม นั่นคือชีวิตของคนธรรมดา วันนี้บอร์ดประกันสังคมทั้งสามฝ่าย นายจ้าง-ผู้ประกันตน-รัฐ เราเห็นพ้องต้องกัน…เราไม่ได้ปรับเพิ่มบำนาญ แต่เป็นสูตรคำนวณ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น”
ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน (ประชาพิจารณ์) เป็นเวลา 30 วัน เพื่อนำไปแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
คาดว่าจะเริ่มใช้สูตรใหม่ได้พร้อมกับการปรับเพดานค่าจ้างในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนทุกคน
เปรียบเทียบเงินบำนาญ ประกันสังคม ม.33-ม.39 สูตรเดิม VS สูตรใหม่ ต่างกันอย่างไร
สูตรคำนวณบำนาญแบบเดิม
สูตรเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 คำนวณจากค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
- เงินบำเหน็จ: ผู้ที่ส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จเป็นเงินก้อนครั้งเดียว
- เงินบำนาญ: ผู้ที่ส่งเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
- เงื่อนไข: ต้องมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
- ฐานเงินเดือน:
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 ใช้ฐานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
- ผู้ประกันตนมาตรา 39 ใช้ฐานเงินเดือน 4,800 บาท
- หาก 60 เดือนสุดท้ายเป็นมาตรา 33 จะใช้ฐานมาตรา 33, หากเป็นมาตรา 39 จะใช้ฐานมาตรา 39, หากผสมกันจะเฉลี่ยให้
- การคำนวณ: ได้รับเงินบำนาญ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย และเพิ่มอีก 1.5% ของระยะเวลาการส่งเงินสมทบทุก 12 เดือน
ปัญหาของสูตรเดิมคือ ผู้ที่เคยส่งเงินสมทบมาตรา 33 แล้วเปลี่ยนเป็นมาตรา 39 ในช่วงท้าย จะได้รับเงินบำนาญลดลง เนื่องจากฐานเงินเดือนของมาตรา 39 น้อยกว่า
สูตรคำนวณบำนาญแบบใหม่ (สูตร CARE)
สูตรใหม่นี้จะคำนวณจากเงินเดือนเฉลี่ยตลอดอายุการทำงานจริง มีหลักการดังนี้
- คำนวณจากเงินเดือนเฉลี่ยตลอดอายุการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาเงินเดือนลดลงในช่วงท้าย
- ปรับค่าเงินเดือนในอดีตให้เป็นค่าเงินปัจจุบัน เพื่อให้สะท้อนค่าครองชีพที่แท้จริง
- ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะมาตรา 39 จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน
- มีการชดเชยส่วนต่างของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่อาจจะได้รับเงินบำนาญน้อยลงกว่าสูตรเดิม ในช่วงเวลา 5 ปีแรก.
สูตรใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับเงินบำนาญที่เป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เคยส่งเงินสมทบมาตรา 33 แล้วเปลี่ยนเป็นมาตรา 39 ซึ่งจะได้รับเงินบำนาญเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นผลดีกับผู้ประกันตนมาตรา39 เป็นอย่างยิ่ง
สรุปข้อแตกต่าง สูตรใหม่ดีกว่าเดิม
- สูตรเดิมใช้ฐานเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย แต่สูตรใหม่ใช้ฐานเงินเดือนตลอดอายุการทำงาน
- สูตรใหม่ปรับค่าเงินเดือนในอดีตให้เป็นค่าเงินปัจจุบัน
- ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับประโยชน์จากสูตรใหม่อย่างชัดเจน