ข่าวอาชญากรรม

“ครูแบทแมน” วิตถารหนักจริง แฉหวิดชกครูสาวปกป้องนร. เรื่องถึงหู สธ. “ชาดา” ลุยสอบเอง

“ชาดา” ลงพื้นที่ตรวจสอบเอง กรณีฉาว ครูสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปวิตถารว่อนโรงเรียน เบื้องต้นกระทรวงศึกษาสั่งออกห่างจากเด็กๆ เพื่อความปลอดภัย รอสอบข้อเท็จจริงไม่เกิน 7 วัน ส่วนการลงโทษทางวินัยนั้นต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เป็นประเด็นร้อนหลังจากที่ กัน จอมพลัง โพสต์ภาพเปิดโปง ครูชายรายหนึ่งที่ จ.อุทัยธานี ถูกผู้ปกครองและเด็กนักเรียนร้องเรียนว่า ชอบแต่งตัวประหลาดแล้วถ่ายคลิปวิตถารในห้องเรียนและสถานที่ต่างๆ ในสถานศึกษาลงโซเชียล โดยในภาพจะเห็นคุณครูชายที่กำลังเป็นข่าว เปลือยกายโดยสวมใส่หน้ากาก “แบทแมน” เพียงอันเดียว และมีโซ่ล็อกคอพร้อมกับสายระโยงระยางไปจนอุปกรณ์แปลกปลอมห้อยอยู่ตรงอวัยวะเพศด้วย

Advertisements

ล่าสุด “กัน จอมพลัง” มีการแจ้งข่าวด่วน! โดยหลังจากเป็นข่าว ปรากฏทราบว่าทางครูผู้ชายได้เกิดความไม่พอใจอย่างมาก และมีรายงานว่าจะชกต่อยครูผู้หญิง เนื่องจากโมโหที่ครูสาวปกป้องนักเรียนหญิงที่เรียกร้องเรื่องครูใส่หน้ากากถ่ายหวิวในรร. ทำให้กันจอมพลังตัดสินใจยกหูหาทางผู้ใหญ่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ให้มาช่วยและอัปเดตล่าสุดเจ้าตัวกำลังลงมาลุยเองที่สถานศึกษาต้นเรื่องในอุทัยธานี

แฉครููแบทแมนจะต่อยครูผู้หญิง
ภาพ Facebook @gunjompalang1
ชาดา สมัยนั่งเก้าอี้ มท.2
แฟ้มภาพ Facebook @Chada Thaised
ครูแบทแมน คอมเมนต์วิพาก์วิจารณ์ตำหนิพฤติกรรมไม่มีจรรยาบรรณอย่างรุนแรง
แฟ้มภาพ @gunjompalang1

ทั้งนี้ยืนยันจากการตรวจสอบเบื้องต้นของไทยรัฐ พบว่าชายคนนี้เป็นคุณครูสอนหนังสือในโรงเรียนดังกล่าวจริง โดยล่าสุด นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วยนายพลรพี ทุมมาพันธ์ รองเลขาธิการคุรุสภารับเรื่องร้องเรียนจากนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ขอให้ตรวจสอบกรณีครูฉาวแบทแมน อีกทั้งยังมีการกล่าวหา ผู้อำนวยการของโรงเรียนว่า ออกมาพูดหน้าเสาธงไม่ให้เอาเรื่องไปบอกต่อเพราะเกรงจะกระทบชื่อเสียงทำให้นักเรียนและครูรู้สึกไม่สบายใจ

เกี่ยวกับประเด็นทั้งหมดนั้น นายธีร์ กล่าวว่า สพฐ.ไม่ได้นิ่งนอนใจและจะติดตามตรวจสอบอย่างเต็มที่ และจากการตรวจสอบล่าสุดทราบว่าเป็นข้าราชการครู โดยได้ประสานให้ส่งตัวครูคนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว รวมถึงได้ให้ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จวันนี้ทันที โดยมีมาตรการทางปกครองและทางวินัย เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด

กรณีนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่าผิดวินัยร้ายแรงจริง “รองเลขาฯ สพฐ.” ย้ำชัดเจนว่าจะได้รับโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช่เวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงไม่เกิน 7 วัน ส่วนการลงโทษทางวินัยนั้นต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Advertisements

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button