หมอวรงค์ ชี้ ประชาชนต้องรู้ทันเงินดิจิทัล ส่วนรัฐบาลควรออก พรก.กู้เงิน
หมอวรงค์ โพสต์ข้อความแนะประชาชน ต้องรู้ทันเงินดิจิทัล ร้านที่ไม่เสียภาษีเข้าร่วมได้แต่ขึ้นเงินไม่ได้ สุดท้ายโครงการคงล่ม เพราะควรออก พรก.กู้เงินมากกว่า เผยพรรคไทยภักดีจะร้อง กกต. วันที่ 20 พ.ย.นี้
หลังจากอดีตแพทย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก นายวรงค์ เดชกิจวิกรม หรือ หมอวรงค์ ออกมาเปิดประเด็นเรื่องโครงการเงินดิจิทัล (Digital Wallet) 10,000 บาท อาจไปไม่ถึงฝั่ง ทั้งจากการปราศรัยที่ย้อนแย้ง และงบประมาณที่ตอนแรกกล่าวชัดเจนว่าจะไม่กู้ แต่สุดท้ายก็ต้องกู้เงิน
ล่าสุด วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 หมอวรงค์ ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียอีกครั้ง โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม – Warong Dechgitvigrom ในหัวข้อ ประชาชนต้องรู้ทันเงินดิจิทัล ระบุว่า
“มีประชาชนจำนวนไม่น้อย ได้ยินนายเศรษฐาพูดว่า จะนำแอปเป๋าตังมาใช้ จึงคิดว่า เมื่อขายของแล้ว จะได้เงินเข้าบัญชีเหมือนรัฐบาลลุงตู่
ผมต้องขอย้ำนะครับว่า เขาพูดว่าจะเอาแอปเป๋าตังมาใช้ก็จริง แต่เขาเอามาใช้ร่วมกับบล็อกเชน ไม่ใช่เอามาใช้แล้ว จะมีเงินเข้าบัญชีเหมือนรัฐบาลลุงตู่ อย่าเข้าใจผิดครับ
เงินของรัฐบาลเศรษฐาที่เขาให้มาหรือร้านค้าขายของได้นั้น เป็นเงินดิจิทัล เป็นเงินบาทชั้นสอง ไม่ใช่เงินชั้นหนึ่ง หรือเงินสดจริง ๆ เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย และห้ามซื้อสินค้าอีกนับสิบรายการ จะกลายเป็นเงินชั้นหนึ่ง ต้องรอแลก หลังซื้อขายหกเดือนไปแล้ว
ส่วนที่นายเศรษฐาพูดว่า ร้านค้าย่อย ตลาดนัด แผงลอย เข้าร่วมได้ ไม่ต้องมีระบบแวต 7 เปอร์เซนต์ก็ร่วมได้นั้น ต้องฟังให้หมด เนื่องจากแม้ขายของได้ก็ขึ้นเงินไม่ได้ เพราะร้านย่อยไม่ได้อยู่ในระบบฐานภาษีที่ต้องเสียภาษี จึงขึ้นเงินไม่ได้ ที่สำคัญร้านใดแม้อยู่ในระบบภาษี ต้องรออีก 6 เดือนจึงขึ้นเงินได้ เข้าใจตรงกันนะครับ
สิ่งที่ยิ่งสับสนไปใหญ่คือ นายเศรษฐาพูดว่า เงินดิจิทัลนี้ จะเริ่มแจกพฤษภาคมปี 2567 และจะขยายจนหมดโครงการ เมษายน 2568 รวม 1 ปี ล่าสุดนายจุลพันธ์กลับพูดคนละอย่าง
นายจุลพันธ์บอกว่า รัฐบาลก็จะสร้างกลไกขึ้นมา เพื่อทำให้ดิจิทัลวอลเล็ต หมุนอยู่ในระบบให้นานขึ้น หมุนไปเรื่อย ๆ ในระบบ 2 – 3 ปีตามเป้าหมายรัฐบาล เท่ากับว่าประเทศไทยจะมีเงินบาทสองประเภท อยู่ในระบบนานร่วมสามปี ผมไม่มั่นว่านักลงทุนต่างชาติ จะเชื่อมั่นต่อค่าเงินบาทหรือไม่
สุดท้ายลึก ๆ แล้ว ผมคิดว่าโครงการเงินดิจิทัล ของรัฐบาลเศรษฐาคงล่ม เพราะถ้าเขาอยากให้เกิดจริง ๆ เขาควรออกพรก.กู้เงิน ไม่ใช่มาดึงเกมแล้วออกเป็นพรบ.ซึ่งใช้เวลานาน”
อย่างไรก็ตาม หมอวรงค์ได้ออกมาโพสต์ประกาศเพิ่มเติมว่า พรรคไทยภักดีจะไปร้องสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เรื่องแจกเงินดิจิทัล วันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.30 น. นอกจากนี้ ประชาชนสามารถติดตามไลฟ์หัวข้อ “ทำไมจึงร้อง” ในวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 15.30 น. ที่เพจเฟซบุ๊ก และ TikTok
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง