วอนช่วย “หนุ่มลำปาง” แรงงานฟาร์มไก่ในอิสราเอล อยากกลับบ้านแต่นายจ้างบังคับทำงานต่อ
หนุ่มลำปาง แรงงานคนไทยในอิสราเอลอยากกลับบ้าน แต่ถูกนายจ้างบังคับทำงานต่อ ต้องทนปั่นจักรยานไปเก็บไข่ที่ฟาร์มไก่ทุกวัน วันละ 1-2 หมื่นฟองต่อวัน ไม่ให้หยุด ท่ามกลางเสียงปืนเสียงระเบิดและจรวดดังตลอดทั้งวัน
วันที่ 11 ต.ค.2566 รายการข่าว “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของนายอาทิตย์ แรงงานคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอล ซึ่งทาง จินตนา อายุ 33 ปี อำเภอเสริมงาม จ.ลำปาง ภรรยาของนายอาทิตย์ได้ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ หลังจากพบว่า สามีของเธอถูกนายจ้างที่ประเทศอิสราเอลบังคับให้อยู่ทำงานในฟาร์มไก่ ที่ห่างจากฉนวนกาซาราว 40 กิโลเมตร
ภรรยาของนายอาทิตย์ยังเล่าต่อว่า สามีทำงานมาได้ 4 ปี โดยเหลือสัญญาจ้างอีกแค่ปีเดียว ที่ทำงานอยู่ในเมืองดิซาลอน ห่างฉนวนกาซาประมาณ 40 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุวิดีโอคอลคุยกัน สามีบอกทุกวันนี้ยังคงถูกนายจ้างบังคับให้ไปทำงานในฟาร์มปกติ แม้จะขอหยุดแต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยที่ทำงานของสามีเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ 20,000 ตัว ต้องเก็บไข่วันละ 10,000 – 20,000 ฟองต่อวัน
ทั้งนี้ นายอาทิตย์ยังได้เล่าให้ภรรยาของตัวเองฟังว่า บ้านพักคนงานมีคนงานอยู่ 20 กว่าคน เป็นคนไทยทั้งหมด ทุกวันนี้ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด 24 ชม. การเดินทางไปฟาร์มไก่ต้องปั่นจักรยานทุกวัน วันละ 1 ก.ม. ตัวนายอาทิตย์เชื่อว่าสถานการณ์สู้รบบานปลายแน่นนอน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
“มันไม่ปลอดภัยอ่ะครับ ที่หลบภัยก็ไม่มี ยังไม่หยุดเลยเมื่ออวานนี้ก็ยิงเข้ามา ที่ว่าสกัดไว้ได้” เสียงบางช่วงบางต่อนที่นายอาทิตย์วิดีโอคอลเล่าให้กับทีมข่าวและภรรยาฟังถึงเหตุความรุนแรงที่ยังดำเนินอยู่
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน ระบุจมี 411 คน เป็นแรงงานชาย 406 คน หญิง 5 คน จากทุกอำเภอในจังหวัด 13 พื้นที่ โดยเป็นชาว อ.เสริมงาม มากที่สุด 92 คน รองลงมาชาว อ.สบปราบ และ อ.เถิน อำเภอละ 72 คน, อ.แม่ทะ 36 คน, อ.เกาะคา 26 คน และ อ.งาว 25 คน ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่ไปทำงานภาคการเกษตร 390 คน ที่เหลือทำงานเป็นคนงานทั่วไป, พ่อครัว, ช่าง และพนักงานขับรถ.