‘ชาดา’ ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุก ย้ำกรณี ‘กำนันนก’ จะเกิดขึ้นอีกไม่ได้
ชาดา ไทยเศรษฐ์ ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุก ต้องเข้าคุกได้ทุกคน ย้ำกรณี กำนันนก จะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ เพราะเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์ถึงคดีกำนันนกว่า หากเป็นงานเลี้ยงธรรมดาก็ไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าไปเลี้ยงกันประจำ ไปรับสินบน ก็ไม่ถูกต้อง โดยการที่ตำรวจไปงานเลี้ยง ไม่ใช่เรื่องผิด แต่อยู่ที่ว่า ไปงานเลี้ยงอะไร ซึ่งต้องดูและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีอิทธิพลของกำนันนก มองว่า กำนันนก เพิ่งอายุ 35 ปี อาจจะเพิ่งมีเงินและอาจจะลืมตัว แต่ตนเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อ “กำนันนก” มาก่อน อยู่ที่องค์กรของรัฐต้องลงมาช่วยกัน แต่ในกรณีนี้ เป็นการท้าทายอำนาจรัฐ “ซึ่งยอมไม่ได้” ล่าสุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไปลงพื้นที่ และมีหน่วยงานกรมบัญชีกลาง มีสรรพากร ตรวจสอบหมด รวมถึงอาวุธปืน ก็ต้องมีการดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด โดยกรณี “กำนันนก” จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ
ส่วนด้านการแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพล จะต้องมีการระดมกันหลายภาคส่วน หน่วยการราชการจะต้องช่วยกันตรวจสอบ เพราะตนเองเชื่อว่าไม่มีใครใหญ่กว่าประตูของคุก เข้าคุกได้ทุกคน และเป็นเรื่องของระบบที่จะต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า อิทธิพล มีทั้งด้านดี และ ด้านเลว โดยกำนันทั่วประเทศ มีกว่า 7-8 พันคน ก็ต้องยอมรับว่า มีทั้งดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับกำนันทุกคนด้วย ไม่ใช่มีกำนันทำเลว 1 คน แล้วกำนันจะเสียหมดทั่วประเทศ
โดยในยุคนี้ต้องทำให้กระทรวงมหาดไทย สะอาดก่อน และตนเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ คงต้องตื่นตัวและมาร่วมมือกัน เฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก ซึ่งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ตนเองก็จะเริ่มกวาดบ้านในพื้นที่ของตนเองก่อน คือ จ.อุทัยธานี โดยมีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ไปลุยมาหลายรอบแล้ว ซึ่งยอมรับตรง ๆ ว่าตนเองก็เคยถูกขึ้นชื่อว่ามีอิทธิพล แต่ตอนนี้ตนเองนั้นสะอาดแล้ว ซึ่งทุกคนต้อง Clean และไม่รังแกประชาชน
นายชาดา ยังกล่าวอีกว่า หากมีชาวบ้านหรือประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน สามารถประสานมาที่ตนเองได้โดยตรง ซึ่งต่อไปหลังจากนี้ จะมีช่องทางในการรับแจ้งเรื่องราวเหล่านี้ และแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบผ่านสื่อมวลชน เพื่อรับเรื่องราวความเดือดร้อนของประชาชน ที่เกิดจาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่อไป