อนุทิน กำชับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าไปสนิทสนมกับคนไม่ดี ต้องใช้กฎหมายเข้มงวด ต้องป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้ทำร้ายประชาชน
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทย เป็นวันแรก หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
นายอนุทินได้กล่าวถึงกรณีที่ สว.กิตติศักดิ์ มีปากเสียงและขวางทางเจ้าอาวาสและตำรวจไม่ให้เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินในวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ว่า ต้องพยายามทำให้คนเหล่านั้นไม่ไปคุกคาม หรือไปกลั่นแกล้งประชาชนได้ ไม่ใช่เป็นผู้มีอิทธิพล อันธพาล นักเลง เมื่อไม่พอใจก็เอาปืนไปทำร้าย ไปยิงคนอื่นแบบนี้ไม่ได้
เมื่อวานนายกฯ ได้สั่งในที่ประชุมครม. และถือเป็นมติครม.ว่าจะต้องเข้มงวดเรื่องตรวจสอบใบอนุญาตการครอบครองอาวุธปืน รวมถึงอาวุธทุกชนิดที่สามารถนำไปทำร้ายคนได้ จากนี้กระทรวงจะเร่งดูข้อกฎหมายและระเบียบว่าสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพื่อเข้มงวดกับการใช้กฎหมายมากขึ้น
เมื่อถามว่าขณะนี้พบว่าผู้มีอิทธิพลส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับนักการเมืองในท้องที่ จะต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เดิมผู้มีอิทธิพลถูกแบ่งเป็น 16 ประเภท เช่น ผู้ค้าของเถื่อน ผู้ค้าประเวณี น้ำมันเถื่อน ฮั้วประมูล และผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งอาจต้องมาดูว่าจำเป็นต้องเพิ่มหรือไม่ แม้ส่วนใหญ่จะมีกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่แล้ว แต่กระทรวงจะต้องป้องกันไม่ให้บุคคลเหล่านี้ มีบทบาทและใช้อิทธิพลไปทำร้ายผู้อื่น
ทางกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตลอด เพราะสิ่งที่เขาทำมันผิดกฎหมาย เราจึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพราะหากไม่ใช่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง การพกอาวุธถือว่าผิดกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวด
“เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องวางตัวให้ดี ไปคลุกคลี ไปตีสนิท ไปสนิทสนมกับคนเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่คนที่มีพฤติกรรมที่ดี เราต้องไม่ไปสนิทสนมกับเขา และคอยดูแลพฤติกรรมของคนเหล่านี้ด้วย เราจะให้ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องไม่ได้ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกอบจ. อบต. ที่ทำงานดีทุ่มเทเพื่อประชาชน ตั้งใจเสียสละทำงานเพื่อส่วนรวมก็มี และมั่นใจว่ามีมากกว่า แต่เราไปเน้นที่คนพาล” นายอนุทิน กล่าว
