เปรียบเทียบ USB-C กับ Lightning ต่างกันอย่างไร พอร์ตแบบไหนถูกใจผู้ใช้งาน
เปิดข้อมูลเปรียบเทียบ USB-C กับ Lightning ต่างกันอย่างไร หลัง Apple เปิดตัว iPhone 15 Series เปลี่ยนมาใช้พอร์ตมาจรฐานสากล
เป็นไปตามที่เหล่าสาวกคาดหวัง หลังช่วงเที่ยงคืนวันที่ 13 กันยายน 2566 (ตามเวลาประเทศไทย) มีอีเวนต์เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดของค่ายยักษ์ใหญ่ Apple อย่าง iPhone 15 Series ที่ดีไซน์ด้วยวัสดุไทเทนียมคุณภาพสูง แมถยังมาพร้อมกับพอร์ต USB-C หรือ USB Type C ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนคาดหวังมาตั้งแต่เปิดตัว iPhone 13
ก่อนหน้านี้นับตั้งแต่ปี 2012 ทางบริษัทแอปเปิลได้ออกพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ไอโฟนออกมาชื่อว่า Lightning ซึ่งเป็นสายพอร์ตที่ต้องผ่านมาตรฐาน MFi (Made For iPhone) เริ่มใช้ครั้งแรกในรุ่น iPhone 5 และได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานเป็นอย่างดี เนื่องจากมีขนาดหัวพอร์ตเล็กกว่าหัวแบบ 30-pin รุ่นเดิมของทางแอปเปิล และสามารถเสียบใช้งานได้ทุกด้านไม่ต้องเลือกฝั่ง
ทว่าปัจจุบันพอร์ตแบบ Lightning กลับกลายเป็นปัญหาเนื่องจากทำให้ไม่สามารถใช้พอร์ตสากลอย่าง USB-C มาใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ไอโฟนแทนได้ เหตุนี้ที่นำไปสู่ความสิ้นเปลืองในการจ่ายค่าสินค้าเพื่อมารองรับการเชื่อมต่อกับไอโฟนโดยเฉพาะ แต่ข่าวดีก็คือรุ่น iPhone 15 เปลี่ยนมาใช้ USB-C เรียบร้อยแล้ว
เผยความลับ USB-C กับ Lightning ต่างกันอย่างไร
สำหรับคนที่เป็นสาวกแอปเปิลก็คงจะเข้าใจปัญหาเรื่องสายพอร์ตเชื่อมต่อนี้ดี แต่สำหรับใครที่เพิ่งเข้าสู่วงการอาจจะยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง USB-C กับ Lightning ซึ่งในวันนี้เดอะไทยเกอร์จะเปรียบเทียบรายละเอียดพอร์ตทั้งสองแบบให้ทุกคนทำความเข้าใจว่าต่างกันอย่างไร
USB-C หรือ USB Type C คืออะไร
USB-C หรือ USB Type C เป็นพอร์ตพื้นฐานสำหรับรับและส่งข้อมูล รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดที่ 40 Gbps และ การจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 48V/5A (240 วัตต์) เริ่มนำมาใช้งานเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2015
พอร์ต Lightning คืออะไร
Lightning เป็นบัสคอมพิวเตอร์และขั้วต่อสายไฟที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งสร้างและออกแบบโดยบริษัทแอปเปิล เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2018 เพื่อแทนที่ขั้วต่อ Dock 30 พินรุ่นก่อน ขั้วต่อไลต์นิงใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของแอปเปิล
สรุปความต่างระหว่าง USB-C และ Lightning
พอร์ตแบบ USB Type C และ Lightning มีความแตกต่างกัน คือพอร์ตแบบ USB-C มีความเร็วในการเชื่อมต่อสูงกว่า การรับ-ส่งโอนถ่ายข้อมูลเร็วกว่า จ่ายกระแสไฟได้มากกว่า ทำให้สามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ไวขึ้น อีกทั้งยังมีดีไซน์แบบสมมาตรสามารถเสียบพอร์ตสลับด้านได้เหมือน Lightning จึงอาจกล่าวได้ว่าพอร์ต USB-C ในปัจจุบันนี้เหนือกว่า Lightning แทบจะทุกด้าน