สาวโพสต์ร้านนี้ขอลาขาด หลังถูกห้ามนำ ‘น้ำจิ้มพอนสึ’ เข้าร้าน งานนี้ชาวเน็ตเสียงแตก
กลายเป็นประเด็นโต้เถียงร้อนแรงบนโซเซียล หลังสาวคนหนึ่งโพสต์ ร้านนี้ขอลาขาดร้านสุกี้เจ้าดัง หลังถูกห้ามไม่ให้นำ ‘น้ำจิ้มพอนสึ’ เข้าร้าน ทั้งที่เคยทำได้ พร้อมถามสมาชิก ‘กลุ่มคนรักบุฟเฟต์’ มีร้านอื่นอีกไหม อยากไปอุดหนุน แต่งานนี้ชาวเน็ตเสียงแตก แบ่งฝั่งสุดฤทธิ์
เกิดข้อถกเถียงอย่างต่อเนื่อง หลังมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์ข้อความผ่าน ‘กลุ่มคนรักบุฟเฟต์’ พร้อมแนบรูปประวัติสนทนาระหว่างเจ้าของบัญชีกับร้านสุกี้ชื่อดังที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักร้านหนึ่ง
ซึ่งปรากฏบทสนทนาที่เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กได้สอบถามร้านสุกี้ว่า สามารถนำ ‘น้ำจิ้มพอนสึ’ เข้าไปทานในร้านได้ไหม เนื่องจากตนนั้นไม่ทานน้ำจิ้มสุกี้ แต่ล่าสุดทางร้านกลับปฏิเสธ ไม่อนุญาตให้ลูกค้านำเครื่องปรุง น้ำจิ้ม หรือน้ำซุปอื่น ๆ ทุกชนิดเข้ามาทานในร้าน และเมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้นเจ้าของบัญชีจึงตัดสินใจโพสต์แจ้งลงกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ เพื่อให้สมาชิกคนอื่น ๆ รับทราบร่วมกัน
ไม่เพียงเท่านั้นโพสต์ดังกล่าวยังได้ระบุข้อความว่า “บ๊ายบาย…ของฉัน คงต้องลาขาด ปกติพกน้ำจิ้มพอนสึไปตลอดเนื่องจากไม่กินน้ำจิ้มสุกี้ จนล่าสุดพนักงานไม่ให้นำน้ำจิ้มเข้าไป และ…ก็ไม่มีพอนสึขายแยก (เมื่อก่อนเคยมีช่วงหนึ่ง) ขอสอบถามมีบุฟเฟต์ร้านไหนสามารถนำน้ำจิ้มเข้าไปได้บ้างคะ หรือมีพอนสึให้ด้วยยิ่งดีค่ะ รบกวนแนะนำหน่อยค่ะ”
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ สมาชิกในกลุ่มดังกล่าวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึง ‘พฤติกรรม’ ของเจ้าของบัญชีเป็นจำนวนมาก บ้างว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม บ้างว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติทางร้านสุกี้เอาเสียเลย บ้างว่าถึงแม้ล่าสุดทางร้านจะไม่อนุญาตให้นำน้ำจิ้มพอนสึเข้าไปทานในร้าน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรเป็นเช่นนั้นมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมในครั้งก่อน ๆ เจ้าของบัญชีถึงนำสิ่งที่ไม่ใช่สินค้าของทางร้าน อย่าง ‘พอนสึ’ เข้าไปทานในร้านดังกล่าว
แต่ก็มีสมาชิกอีกส่วนหนึ่งที่มีความคิดเห็นต่างออกไป ซึ่งได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นสวนทางกับอีกหลาย ๆ ความคิดเห็นก่อนหน้า เพื่อให้เหล่าสมาชิกปรับเปลี่ยนมุมมองและพิจารณาถึงเจตนาของเจ้าของโพสต์ที่ “อาจ” สอบถามด้วยความไม่รู้ เพราะเมื่อใดเราเกิดความไม่มั่นใจถึงข้อปฏิบัติของแต่ละร้าน การตัดสินใจถามอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกคนต่างเข้าใจตรงกัน ปฏิบัติร่วมกัน ซึ่งนั่นนับว่าเป็นสิ่งที่ดี
อีกทั้งในท้ายข้อความจากโพสต์ดังกล่าว ผู้เป็นเจ้าของโพสต์ก็แสดงท่าทียอมรับในข้อปฏิบัติดังกล่าว และคิดหาหนทางอื่น ๆ โดยการสอบถามข้อมูลจากสมาชิกถึงร้านสุกี้ที่ไม่มีข้อปฏิบ้ติเช่นนี้
อย่างไรก็ตามในขณะนี้เจ้าของโพสต์ได้ทำการลบโพสต์ดังกล่าวไปแล้ว และเบื้องต้นทางร้านสุกี้ชื่อดังที่ถูกอ้างถึงในโพสต์ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมถึงประเด็นร้อนแรงนี้
- สุกี้ ชาบู ต่างกันอย่างไร ? ไขข้อสงสัย สายบุฟเฟ่ต์ต้องรู้
- ไขข้อสงสัย ‘น้ำจิ้มไส้กรอกอีสาน มีจริงหรือไม่?’ หลังถกสนั่นทั่วโซเชียล