ข่าว

‘หมอประกิต’ ร่อนจดหมายถึงรัฐบาลใหม่ พิจารณา 12 ข้อนโยบายคุมยาสูบ

‘หมอประกิต’ ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึง รัฐบาลใหม่ชง 12 ข้อคุมยาสูบ เน้นย้ำห้ามนำเข้า-ขายบุหรี่ไฟฟ้า ลดบุหรี่ปลอดภาษีเหลือคนละ 1 ซอง

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2566 ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า ตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับข้อเสนอนโยบายควบคุมยาสูบของประเทศไทย 12 ข้อ เพื่อให้รัฐบาลใหม่พิจารณาดำเนินการอย่างเร่งด่วน ดังนี้

1. เร่งรัดการให้สัตยาบันในพิธีสาร “การขจัดการค้ายาสูบที่ผิดกฎหมาย” เพื่อยกระดับการควบคุมยาสูบผิดกฎหมาย/หนีภาษี ที่ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษียาสูบปีละกว่าหมื่นล้านบาท

2. ปรับอัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรตให้เหลืออัตราเดียว ลดปัญหาบุหรี่ไทย เสียเปรียบบุหรี่ต่างประเทศ จากการจัดเก็บภาษีบุหรี่ 2 อัตราที่ใช้อยู่ในขณะนี้

3. ร่างแผนการทยอยขึ้นภาษีบุหรี่ยาเส้นมวนเอง เพราะอัตราภาษีถูกมากซองละ 10-12 บาท ต่ำกว่าบุหรี่ซิกาแรต 6-7 เท่า ทำให้มีคนสูบยาเส้นมีมากถึง 4.5 ล้านคน จากคนสูบบุหรี่ทั้งหมด 10 ล้านคนเศษ

4. แก้ปัญหาชาวไร่ยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากความต้องการใบยาสูบลดลงอย่างจริงจังเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยช่วยเปลี่ยนอาชีพ ส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน

5. เพิ่มความเข้มแข็งของการควบคุมยาสูบของคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัด ทั้งด้านนโยบาย อัตรากำลัง และงบประมาณ โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กฎหมายห้ามสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ

6. เสริมความเข้มแข็งของกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค ที่ยังขาดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามกฎหมายและนโยบาย

7. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงควบคุมส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบที่กระทรวงสาธารณสุขผลักดัน ซึ่งถูกคัดค้านจากฝ่ายที่เสียประโยชน์มาหลายปี

8. ลดจำนวนบุหรี่ปลอดภาษี ที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยนำเข้าได้จาก 10 ซองต่อคน ให้เหลือ 1 ซองต่อคน จะทำให้รัฐบาลเก็บภาษียาสูบส่วนนี้เพิ่มขึ้นปีละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งสิงคโปร์ ศรีลังกา เนปาล ห้ามบุหรี่ปลอดภาษีสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ขณะที่ฮ่องกงให้นำเข้าได้ 19 มวน และออสเตรเลียไม่เกิน 50 มวน

9. กำหนดให้ยารักษาช่วยเลิกบุหรี่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสุขภาพทั้ง 3 กองทุน

10. ควรคงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายอย่างจริงจัง ให้กระทรวงศึกษาธิการ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้ความรู้และพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าแก่เด็กนักเรียนทั่วประเทศ

11. ต้องกำหนดมาตรการป้องกันการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบจากธุรกิจยาสูบและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และข้าราชการประจำของกระทรวงต่าง ๆ

และ 12. ปัญหาการควบคุมยาสูบที่สำคัญที่สุดคือ ยังขาดการมีส่วนร่วมของกระทรวงหลักอื่น ๆ ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องมีทิศทางและเป้าหมายในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของอนุสัญญาควบคุมยาสูบฯ ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี

ทั้งนี้ หวังว่ารัฐบาลใหม่จะพิจารณาและดำเนินการ ข้อเสนอทั้ง 12 ข้อโดยเร็ว เพื่อลดความสูญเสียของสังคมจากยาสูบทุกประเภท ที่สำคัญขอให้รัฐบาลพิจารณากฎหมายควบคุมยาสูบอย่างรอบคอบ ไม่ควรเร่งรัด และต้องไม่ให้บริษัทบุหรี่ล็อบบี้ยิสต์ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าที่ดีที่สุดของไทย

ศ.นพ.ประกิต ยังกล่าวอีกว่า “แม้ไทยจะมีการควบคุมยาสูบมามากกว่า 30 ปี แต่ผู้บริหารประเทศ ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งข้าราชการระดับสูง และนักวิชาการในมหาวิทยาลัยบางส่วน ยังไม่เข้าใจว่าการควบคุมยาสูบเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำงานประสานเสริมให้การควบคุมยาสูบมีประสิทธิภาพ ลดจำนวนคนสูบบุหรี่อย่างแท้จริง ม่ใช่เป็นเพียงกระทรวงสาธารณสุข และสสส.

เพราะการควบคุมยาสูบต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งรัฐและเอกชน งบประมาณ และบุคลากรที่เพียงพอในการขับเคลื่อนงาน ที่จำเป็น รัฐบาลจะต้องลงทุนในการลดความสูญเสียจากการสูบบุหรี่ ทั้งด้านคุ้มครองสุขภาพประชาชนและความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการรักษาโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ จากข้อมูลล่าสุดพบว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนเวลาอันดับหนึ่งของชายไทย ซึ่ง 1 ใน 3 ยังเสพติดบุหรี่และเลิกไม่ได้”

หมอประกิต จดหมายผนึก
ภาพจาก Facebook Page : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth

 

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button