พาสำรวจหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข นโยบายแจกสกุลเงินดิจิทัล 10,000 บาท พรรคเพื่อไทย วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท ให้หลังตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้า หากเป็นรัฐบาลเดินหน้าแจกทันที ไม่มีมือถือใช้บัตรประชาชนแทนได้ วิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวกเชิงลบ ไม่กระทบการคลังประเทศ คาดโครงการเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2567
ภายหลังจากที่วันนี้ (11 ส.ค.66) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเดินหน้า “แจกสกุลเงินดิจิทัล 10,000 บาท” นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยมีวงเงินที่ต้องใช้ 560,000 ล้านบาท ที่พรรคพท. ได้หาเสียงเอาไว้ก่อนการเลือกตั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
กำหนดให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 10,000 บาท เข้าดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกสร้างโดยรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้สร้าง มีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ ต้องใช้ภายในรัศมี 4 กิโลเมตร ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนตามภูมิประเทศได้ และต้องใช้ในระยะเวลา 6 เดือน
ส่วนประชาชนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ จะไม่พบปัญหา เพราะสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวกับโค้ดส่วนตัวมาใช้แทนได้
ขอบคุณคลิป : Facebook @pheuthaiparty.
เงินดิจิทัล 10,000 บาท มาจากไหน ?
สำหรับที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ อ้างอิงจากเอกสาร “กำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ต้องให้จ่ายเงิน ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560” ที่พรรคการเมืองต้องส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดยในรายละเอียดเนื้อหาที่มาของเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จากเอกสารชี้แจงของทางพรรคจำนวน 60 หน้า มีการกล่าวอ้างถึงที่มาที่ไปของนโยบายดังกล่าว ดังนี้
- ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 67 : 260,000 ล้านบาท
- ภาษีที่ได้มาจากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย : 100,000 ล้านบาท
- การบริหารจัดการงบประมาณ 110,000 ล้านบาท
- การบริหารงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 90,000 ล้านบาท
พรรคเพื่อไทย ยังระบุด้วยว่า ในสส่วนของนโยบายเงินดิจิทัลนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ด้านการคลังประเทศ ส่วนข้อกังวลเงินเฟ้อ ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาฯ พรรคพท. ระบุ หลังจากได้ทำศึกษาผลกระทบในสภาวะเงินเฟ้อ ที่ตอนนี้คลี่คลาย ทำให้เงินจำนวนนี้จะไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อที่มีนัยสำคัญ และไม่ได้เกิดผลกระทบในภาคอุปสงค์
ส่วนข้อความกังวลมั่นคงทางการคลัง ทางพรรคเพื่อไทยได้วิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวก และผลลบ ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อการคลังของประเทศ
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยจะทำนโยบายตลาดทุนคู่ขนาน โดยตั้ง กลต.ดิจิทัลเพื่อดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการได้วันที่ 1 มกราคม 2567.