เปิดใจ! เอ้ ชุติมา ช่วยทำสเตทเมนต์ให้ ฟร้อง ศุภกิจ ก่อนฝ่ายชายทำบัตรเครดิตวงเงินอันลิมิต ยอดใช้จ่ายพุ่ง พบไปติดสาวเที่ยวเลานจ์ ด้านเอ้จะใช้เงินต้องขอทำเรื่องกู้
กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม สำหรับข่าวความสัมพันธ์ระหว่าง เอ้ ชุติมา นัยนา และอดีตแฟนหนุ่มรุ่นน้อง ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์ ที่ได้เลิกรากันไป ก่อนจะมีปัญหากันในเรื่องของบ้านและค่างวดรถ BMW จนต้องไปนั่งเคลียร์กันในรายการ โหนกระแส ล่าสุด เอ้ ชุติมา เปิดใจถึงเรื่องลับที่ไม่มีใครรู้ ในเรื่องของการใช้เงินและบัตรเครดิตของทั้งคู่
เอ้ ชุติมา ได้เปิดใจถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวเองและฟร้อง ในรายการ คุยแซ่บShow เทปล่าสุด โดยเอ้ได้พูดว่า “เขาไม่รับอะไรเลย อะไรที่เราพูดเรื่องจริงเรามีหลักฐาน ทุกอย่างที่พูดไปมีหลักฐานทุกอย่าง”
ด้านพิธีกรได้ถามถึงประเด็นที่ เอ้ ชุติมา โดนแม่ของฟร้องพูดใส่หน้าว่าหมดตัว เอ้ได้ตอบว่า “เงินอยู่ที่เขาทั้งหมดค่ะ เงินพี่เอ้ทุกบาททุกสตางค์ที่ทำงานอยู่ที่ลูกชายเขาหมดค่ะ” แต่หลังจากเลิกกันไปเอ้ก็ได้เปลี่ยนมารับงานด้วยชื่อตัวเอง ส่วนเงินก่อนหน้านี้เป็นชื่อของฝ่ายชายไปแล้ว ไม่ได้เข้าไปยุ่ง และไม่สามารถอัปเดตได้ว่าเหลือเท่าไหร่
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดถึงเรื่องยืมเงินครั้งละ 5 หมื่น ว่าหมายถึงอะไร เอ้ ชุติมา จึงได้อธิบายว่า “ต้องยืมทีละ 5 หมื่น เงินเราอยู่ที่ลูกชายเขา ถ้าคุณจะเอาก็ให้ลูกชายเขาโอนไปให้คุณสิ ขาดเหลือให้คุยกับลูกชาย โอนไป แต่ลูกชายเขาไม่โอน แม่เลยมีความรู้สึกว่า เงินเป็นเงินลูกชายเขาที่เขาทำงาน ไม่ใช่เงินเรา เราก็เลยบอกว่าลูกชายเขาทำอาชีพอะไร ลูกชายเขาเป็นดาราเล่นหนังเรื่องอะไร”
งานนี้พิธีกรจึงได้ถามต่อว่า ทำไมถึงเลือกให้ผู้ชาย เอ้จึงอธิบายว่า “น้องเขาบอกว่าถ้าคบกับเรา เขาอยากมีหน้าตาทางสังคม เราก็เหมือนอยากยกระดับน้อง ให้น้องรู้สึกว่าภาคภูมิใจในตัวเอง มีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถทุกอย่าง จะได้เหมือนว่า เดินกับเราแล้วไม่มีใครดูถูกเขา แต่เป็นเงินเรา โดยที่สังคมไม่รู้ แต่เรารู้กัน พี่มีสลิปในการโอนเงินทุกอย่าง กระทั่งค่าทางด่วน เขาก็เบิกที่เรา ค่าน้ำค่าไฟทุกอย่าง”
ทั้งนี้เอ้เผยว่าแฟนเก่าคนอื่นก็มีแตะเงินบ้าง แต่ไม่ได้โอนเข้าบัญชีแบบที่ทำให้ฟร้อง ซึ่งสาเหตุที่เธอตัดสินใจแบบนี้ เอ้เล่าว่า “พี่เป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แล้วน้องเขาเป็นคนค่อนข้างจะเก็บเงินอยู่ เขาเป็นคนเก็บทุกเม็ด เงินทองไม่ค่อยกระเด็น ดังนั้นเราเลยมีความรู้สึกว่า เขามีความเป็นผู้นำในชีวิต และเก็บเงินให้เราได้”
เอ้เผยว่าเวลารับงานจะโอนเข้าบัญชีน้อง เพื่อทำสเตทเมนต์ให้ในการกู้บ้าน-กู้รถ ทำทุกอย่างร่วมกัน เพราะอยากใช้ชีวิตด้วยกันจนแก่เฒ่า ถึงขนาดจะหมั้นกัน โดยเอ้รู้สึกเชื่อมั่นคน ๆ นี้มาก ว่าจะนำพาชีวิตเราไปรอด และไม่เอาเปรียบเรา หลายคนก็จะพูดว่าทำไมให้ขนาดนั้น ทำไมถึงโง่ขนาดนั้น
นอกจากนี้ถ้าเอ้ ชุติมา จะใช้เงินตัวเอง ยังต้องจ่ายดอกเบี้ย เอ้เล่าว่า “เวลาจะใช้เงินของตัวเอง เขาก็ไม่ให้เราใช้ ผู้หญิงมันก็ต้องมีแต่งตัวบ้าง มีโน่นนี่ค่าใช้จ่ายบ้าง บางทีเราก็จะส่งที่บ้านราด้วย ถ้าเราส่งที่บ้านมากกว่าเขา เขาก็จะโกรธเรา สมมติเงินเข้ามา 2 แสน เราจะส่งให้พี่กับแม่ 1.5 แสน ฝากที่เขา 5 หมื่น โกรธ ไม่ได้” ซึ่งก่อนหน้านี้เอ้ยอมเพราะอยากใช้ชีวิตคู่และแต่งงานด้วยกัน
ส่วนเรื่องดอกเบี้ย ถ้าเอ้อยากใช้เงินจะขอใช้ชื่อเพื่อนสาวในการกู้จากแฟนให้ โดยฝ่ายชายจะคิดดอกเบี้ยมาให้ และหากเอ้ใช้คืนก็ต้องจ่ายคืน เมื่อถามว่ารู้สึกว่ามันผิดไหม เอ้เล่าวว่า “ก็รู้สึกนะ แต่เงินอยู่ที่เขา จะทำยังไงได้ เราก็ต้องยอม เราเสียดอกร้อยละ 10 เลยนะคะ 10-15 วันส่ง ถ้าเลทก็วันละ 500-1,000 บาท”
เมื่อเอาเงินออกมาไม่ได้ เอ้ก็จะไม่ค่อยฝากเงินเข้าบัญชีอีกฝ่ายแล้ว โดยได้เตี๊ยมกับทีมงาน ไม่ให้บอกแฟนว่ามีรายได้เท่าไหร่ในวันนี้ โดยที่เหลือจะโอนไปเก็บเงินที่คุณแม่ ตอนหลังที่เขาบอกว่าหมดตัว จริง ๆ คือเริ่มคิดได้แล้ว
“หลัง ๆ ที่โกรธอีกอย่าง บัตรเครดิตอ่ะ เขาเป็นคนไปทำ เพราะพี่ทำสเตทเมนต์เขาไว้สวยมาก เด็กอายุแค่ 20 กว่า มีสเตทเมนต์สวยมากเลยค่ะ เขาสามารถทำบัตรเครดิตอันลิมิตได้” โดยที่ฝ่ายชายไปทำแล้วมาบอกทีหลัง ซึ่งมีแค่บัตรหลักใบเดียว ไม่มีบัตรรองให้เอ้เลย
เอ้เผยว่าตอนหลัง ๆ ฝ่ายชายรูดบัตรเครดิตหนักมาก 4-6 หมื่น จนสงสัยว่ารูดอะไรขนาดนั้น ซึ่งเอ้รู้เพราะผู้ชายใช้เงินเสร็จแล้วจะมาหักเงินที่ตนตลอด เอ้เลยถามว่าใช้อะไรไปบ้าง ฝ่ายชายตอบเพียงแค่ของกินของใช้ในบ้าน ซึ่งเอ้เผยว่า ผู้ชายกินแต่อาหารประเภทมาม่า ข้าวริมถนนง่าย ๆ ไม่มีทางแตะยอด 4-6 หมื่น
กระทั่งต่อมาได้รู้ความจริงว่า “เป็นร้านพีอาร์แถวราชพฤกษ์ เพราะเขาไปติดสาวที่นั่น” ซึ่งเพื่อนช่วยกันหา จนพบว่าเป็นร้านพีอาร์-เลานจ์
สำหรับประเด็นที่เอ้หมดเครดิต ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ เอ้เผยว่าตนยังไม่ได้หมดเครดิต แต่ว่าไม่มีอะไรเป็นชื่อของตัวเอง เพราะทั้งบ้านและรถยกให้เขา ซึ่งเธอใช้ชื่อของฟร้อง เพราะว่าฟร้องอายุน้อยกว่า การที่เด็กอายุน้อยกว่า จะสามารถกู้ได้ระยะยาวกว่า ผ่อนถูกลง โดยเรื่องเป็นแบบนี้ เพราะอยากใช้ชีวิตด้วยกัน อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ แถมเธอยังโยกเงินทั้งหมดไปไว้ที่เขา ทำให้สเตทเมนต์ของตัวเองไม่สวยงามเหมือนเดิม.
