อัตราดอกเบี้ย ttb ดอกเบี้ยเงินกู้ เงินฝาก ปรับใหม่ มีผล 7 มิ.ย. 66
ดูตัวเลข อัตราดอกเบี้ย ttb หลังปรับปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เงินกู้ทั้งลูกค้าบุคคลและนิติบุคคลใหม่
จากกรณีที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 66 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% ต่อปี เป็น 2.00% ต่อปี สอดคล้องกับภาวะทิศทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ
ล่าสุด ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จึงได้พิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ทั้งลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล โดยเน้นส่งเสริมให้ลูกค้าออมเงินเพิ่มมากขึ้นผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อด้วยโซลูชันรวบหนี้ โดยธนาคารมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนี้
อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 66
- สำหรับลูกค้าบุคคล
บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 36 เดือน เพื่อการออมระยะยาว ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 2.10% ต่อปี
บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน ประเภท 3 เดือน เพื่อการออมระยะสั้น ได้รับผลตอบแทนเร็วและสูง ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.10% เป็น 1.20% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถรับดอกเบี้ยไปใช้หลังการฝากเงินเพียง 7 วัน
- สำหรับลูกค้านิติบุคคล
บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี อัพแอนด์อัพ ประเภท 24 เดือน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 1.80% ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1 ถึงเดือนที่ 6 เพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.00% ต่อปี
ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ดังนี้
- ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) 0.20%
- ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี 0.20%
- ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) 0.20%
สำหรับ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2566.
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นอัตราที่ธนาคารกลางจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคารพาณิชย์ที่เอาเงินมาฝาก หรือเป็นอัตราที่ธนาคารกลางเก็บดอกเบี้ยจากธนาคารพาณิชย์ที่มากู้เงิน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลกับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์คิดกับลูกค้าที่เป็นผู้กู้หรือผู้ฝากเงินต่อไป (ข้อมูลโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย).