ประวัติ ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ 31 พ.ค. พร้อมคำขวัญปี 66
วันงดสูบบุหรี่โลก (ชื่อภาษาอังกฤษ คือ World No Tobacco Day) จัดขึ้นในทุกวันที่ 31 พฤษภาคม คือวันที่องค์การอนามัยโลกจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้งดการสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดี และไม่ทำให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพต่อคนรอบข้าง วันนี้ทีมงาน Thaiger ได้สืบค้นข้อมูล ประวัติความเป็นมา ดอกไม้ประจำวัน และวัตถุประสงค์ของการรณรงค์จัดวันงดสูบบุหรี่โลก พร้อมทำความรู้จักคำขวัญตั้งแต่คำขวัญแรกจนถึงปี 2566 นี้ มาให้ได้อ่านกัน จะเป็นอย่างไรไปอ่านกันได้เลยครับ
ประวัติ “วันงดสูบบุหรี่โลก” 31 พฤษภาคม
วันงดสูบบุหรี่โลกของทุกปีนั้นจะตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม โดยมีการจัดงานครั้งแรกในปี ค.ศ. 1988 โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องจากได้เล็งเห็นอันตรายของการสูบบุรี่ที่มีต่อสุขภาพทั้งผู้สูบและผู้ที่อยู่รอบข้าง ทั้งในครอบครัวและอื่น ๆ อีกมากมาย
วัตถุประสงค์ในการจัดวันงดสูบบุหรี่โลก
การจัดงานวันงดสูบหรี่โลกนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบ และบุคคลรอบข้างช่วยตักเตือนช่วยเหลือผู้ที่กำลังเสพติดการสูบบุหรี่ให้เลิกสูบเพื่อสุขภาพที่ดี และนอกจากนี้ในภาครัฐนั้นยังต้องการให้รัฐบาลชุมชนและประชาชนได้เห็นโทษและความสำคัญของการเลิกบุหรี่อีกด้วย
ความหมายของดอกไม้ประจำ วันงดสูบบุหรี่โลก
ดอกไม้ประจำวันงดสูบบุหรี่โลกนั้นคือ ดอกลีลาวดี (ดอกลั่นทม) เป็นดอกไม้ที่มีความหมายถึง การมีแต่ความสุข ชื่อเดิมนั้น คือ ดอกลั่นทม ที่ความเข้าใจของคนในยุคก่อนนั้คือ เป็นดอกไม้อัปมงคล ไม่นิยมปลูกในบ้าน ปลูกแล้วมีแต่ความทุกข์ระทม
แต่ทว่าความจริงแล้วความหมายในด้านภาษาคือ คำว่า ลั่นทม เป็นคำผสมจาก ลั่น+ทม ลั่น = ละทิ้ง เลิก ทม = ความระทม ที่จะมีใจความที่ว่า ละทิ้งความระทม ความเศร้าหมอง ต่าง ๆ นั่นก็คือ มีความสุขสดใสนั่นเอง
ในบางหน่วยงาน อาจจะมีการจัดขบวน มอบการ์ดดอกไม้ลีลาวดี แทนการให้กำลังใจกับผู้ที่ตั้งใจจะเลิกบุหรี่ เพื่อวันใหม่ที่สดใสปลอดบุหรี่ สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะเลิก ซึ่งถือว่าเป็นวัน ดีเดย์ อีกวันหนึ่งที่จะเริ่มต้นเลิกสูบบหรี่อย่างจริงจัง การได้รับดอกลีลาวดีไว้นั้นให้เราระลึกถึงความสุข สดใส ห่างไกลโรคภัยต่างๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ จากวันนี้ และตลอดอายุขัย
รวมคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก ปีพ.ศ. 2531 – 2566 WORLD NO TOBACCO DAY
ในทุก ๆ ปีของการจัดวันงดสูบบุหรี่โลกนั้นจะมีการตั้งคำขวัญในการงดสูบบุหรี่เพื่อเป็นทั้งข้อเตือนใจและให้กำลังใจในการเลิกสูบบุหรี่กับประชากรโลก ซึ่งมีทั้งควัญภาษาไทย และภาษาอังกฤษดังนี้ครับ
1. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2566 คือ บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย
2. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2565 คือ บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม
3. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2564 คือ เลิกสูบ ลดเสี่ยง คุณทำได้
4. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2563 คือ ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง #เลิกสูบลดเสี่ยง
5. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2562 คือ บุหรี่เผาปอด (Tobacco burns your lungs)
6. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2561 คือ บุหรี่ตัวร้าย ทำลายหัวใจ (Tobacco Break Heart)
7. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2560 คือ บุหรี่ ภัยคุกคามต่อการพัฒนา (Tobacco-a threat to development)
8. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2559 คือ ซองบุหรี่แบบเรียบ ลดภัยเงียบ ลดโรค (Get ready for plain packaging)
9. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2558 คือ หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย (Stop illicit trade of tobacco products)
10. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2557 คือ บุหรี่ : ภาษียิ่งเพิ่ม คนตายยิ่งลด (Raise taxes on tobacco)
11. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2556 คือ ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต (Ban tobacco advertising, promotion and sponsorship)
12. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2555 คือ จับตา เฝ้าระวัง ยับยั้งอุตสาหกรรมยาสูบ (Tobacco Industry Interference)
13. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2554 คือพิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่ (The WHO Framework Convention on Tobacco Control)
14. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2553 คือ หญิงไทยฉลาด ไม่เป็นทาสตลาดบุหรี่ (Gender and Tobacco With an Emphasis on Marketing to women)
15. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2552 คือ บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย (Tobacco Health Warnings)
16. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2551 คือ เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่ (Tobacco-free Youth)
17. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2550 คือ ไร้ควันบุหรี่ สิ่งแวดล้อมดี ชีวีสดใส (100% Smoke-Free Environments : Create and Enjoy)
18. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2549 คือ บุหรี่ทุกชนิดนำชีวิตสู่ความตาย (Tobacco: Deadly in any form or disguise)
19. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2548 คือ ทีมสุขภาพร่วมใจ ขจัดภัยบุหรี่ (Health Professionals and Tobacco Control)
20. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2547 คือ บุหรี่ : ยิ่งสูบ…ยิ่งจน (ครอบครัวปลอดบุหรี่ จะมั่งมีและแข็งแรง) (Tobacco and Poverty (A Vicious Circle))
21. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2546 คือ ภาพยนตร์ปลอดบุหรี่ ส่งผลดีต่อเยาวชน (Tobacco-free films, tobacco-free fashion)
22. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2545 คือ กีฬาปลอดบุหรี่ ส่งผลดีต่อสุขภาพ (Tobacco-Free Sports – Play it clean)
23. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2544 คือ เห็นใจคนรอบข้าง ร่วมสร้างอากาศสดใส ปลอดจากภัยควันบุหรี่ (Second-Hand Smoke: Let’s Clear the Air)
24. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2543 คือ บุหรี่คร่าชีวิต อย่าหลงผิดตกเป็นเหยื่อ (Tobacco kills, don’t be duped)
25. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2542 คือ อนาคตมีคุณค่า เมื่อบอกลา…เลิกบุหรี่ (Leave the pack behind)
26. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2541 คือ คนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่ (Growing up without tobacco)
27. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2540 คือ ผนึกกำลังเพื่อสังคมปลอดบุหรี่ (United for a Tobacco-Free World)
28. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2539 คือ ศิลปะและกีฬาไม่พึ่งพาบุหรี่ (Sport and the arts: play it tobacco-free)
29. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2538 คือ บุหรี่ก่อความสูญเสีย ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ (Tobacco-Free Economies: A Win-Win Choice)
30. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2537 คือ ทุกสื่อร่วมใจต้านภัยบุหรี่ (The media against tobacco)
31. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2536 คือ บุคลากรสาธารณสุขร่วมสร้างสรรค์สังคมปลอดบุหรี่ (Health services, our window to a tobacco-free world)
32. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2535 คือ ที่ทำงานปลอดบุหรี่ สุขภาพดี ชีวีปลอดภัย (Tobacco free work places : Safer and healthier)
33. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2534 คือ สถานที่สาธารณะและยวดยานปลอดบุหรี่ (Public places and transport : Better be tobacco free)
34. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2533 คือ เติบโตอย่างสดใส ห่างไกลจากภัยบุหรี่ (Growing up without tobacco)
35. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2532 คือ พิษของบุหรี่ต่อสตรี ยิ่งมีมากกว่าบุรุษ (Women and Tobacco : Added risk)
36. คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2531 คือ บุหรี่หรือสุขภาพ ต้องเลือกสุขภาพ (Between tobacco and the health, choose health)
อ้างอิง : 1