ข่าว

ครูผู้ช่วยผวา คนร้ายบุกบ้านพักหวังข่มขืน ตำรวจ-ผู้ใหญ่บ้านจับได้ช้าเพราะเหตุนี้

ผวา! ครูผู้ช่วยโดนคนแปลกหน้า บุกบ้านพักครูในโรงเรียน หวังข่มขืนกระทำชำเรา โชคดีวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือได้ทัน ก่อนพบว่าตำรวจใช้เวลารวบตัวนานเป็นชั่วโมง อ้างต้องรอกำลังเสริม ด้านกำนันขอเวลาโทรหาชมรม ส่วนผู้ใหญ่บ้านบอกต้องเปลี่ยนชุดก่อนถึงจะไปช่วยจับคนร้ายได้

เมื่อช่วงกลางดึกของวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 เพจดังในเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของครูผู้ช่วยคนหนึ่ง ที่เกือบจะโดนคนร้ายเข้ามาข่มขืนถึงในบ้านพักครู แม้จะพยายามรีบล็อคประตูแต่ก็เกือบไม่ทัน ต้องรีบวิ่งหนีไปของความช่วยเหลือคนในพื้นที่ พบคนร้ายเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเองและทำร้ายร่างกายคนอื่น ก่อนถูกปล่อยตัวคืนสังคม วอนถามความปลอดภัยของครูอยู่ที่ไหน?

Advertisements

“ความปลอดภัยของคุณครูหาได้จากไหน..ในเมื่อบ้านพักครูบางแห่งบางพื้นที่ คือจุดอันตรายและไม่มีความปลอดภัยเลย…ผู้ใหญ่ในกระทรวงเคยคิดจะแก้ปัญหาอะไรไหม…ถถถ

เรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อวันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เป็นเรื่องจริง ช่วงเวลา17:30น. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยิ่งย้ำชัดเจนเลยว่าความปลอดภัยในโรงเรียน(ขนาดเล็ก)เป็นศูนย์ ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป.

❌ ความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ตรงไหน? ❌

น้องครูผู้ช่วยทักหา ว่ามีคนแปลกหน้ามาในโรงเรียน แล้วถ่ายรูปคนแปลกหน้าให้เราดู เราจึงบอกน้องไป ให้รีบหนีออกจากโรงเรียน ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โรงเรียน เวลาผ่านไปไม่กี่นาที น้องครูผู้ช่วยโทรหาคล้ายกับขอความช่วยเหลือ พี่อยู่ไหน? มันถามน้องว่าอยู่บ้านพักครูคนเดียวหรอ ? ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ใกล้โรงเรียนเลย ตอบน้องกับไปว่าพี่อยู่ในเมือง กำลังจะกลับ ตอนนี้มันอยู่ รีบหนีขึ้นรถ หนีออกมาก่อน ลางสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว

ผ่านไปสักพัก แฟนน้องครูผู้ช่วยโทรหาว่าติดต่อแฟนไม่ได้เลยรบกวนพี่ติดต่อให้หน่อย ทั้งเราและแฟนน้องครูผู้ช่วย พยายามติดต่อน้องครูผู้ช่วย ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย ครูที่โรงเรียนก็โทรมาถาม ไม่นานเลยมีเบอร์แปลกโทรหา ถามว่าครูอยู่ไหน รีบมาโรงเรียน และก็มีชาวบ้านโทรเฟสมาหาให้รีบมา ในใจภาวนาอย่าเป็นอะไรเลย

Advertisements

พอถึงโรงเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยชาวบ้าน ใจก็เสียไปแล้วระดับนึง พอเห็นหน้าน้องครูผู้ช่วยก็ปล่อยโฮ่ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก #คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายขณะที่จะล็อคประตูบ้านพักครูทำร้ายร่างกายน้องครูผู้ช่วยเพื่อหวังจะข่มขืน แต่วิ่งหนีออกจากโรงเรียนมาได้ และได้มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน กว่าจะจับคนร้ายได้กินเวลาไปรวมชั่วโมง เพราะอะไรนั้นหรอ

– แจ้งตำรวจไปแล้ว มีตำรวจอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับได้ต้องรอกำลังเสริม
– กำนันมาถึงที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่ต้องโทรประสานชมรม
– ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาถึงแล้ว แต่ต้องกลับไปใส่ชุด ถ้าไม่มีชุดไม่สามารถจับคนร้ายได้ (อิหยังวะ)

ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถไปจับคนร้ายได้ ต้องรอตำรวจก่อน ตำรวจพื้นที่สั่งไว้ เดี๋ยวมันเกินกว่าเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นคนร้ายเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง และทำร้ายคนในหมู่บ้านและถูกปล่อยตัวออกมา คนร้ายยังมีพฤติกรรมลักขโมย จนมาก่อเหตุอีกครั้ง #ตำรวจบอกว่าคนเสพยาบ้ามีและบ้ามีเยอะต้องดูแลตัวเองตำรวจจับไม่ไหวหรอก คำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย… มันมีเยอะมาก

1. เรามีความปลอดภัยของผู้เรียน แล้วความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ไหน ?
2. เลิกมองว่าครูต้องเสียสละ ยิ่งเป็นครูตามชนบทแล้ว ครูคืออาชีพอาชีพนึง
3. โรงเรียนขนาดเล็ก ให้ครูเป็นทุกอย่างไม่ได้ (เราทำทุกอย่างจริงๆ) ก่อนจะยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคืนครูให้ห้องเรียน คืนครูให้ครบชั้นก่อน
4. เรื่องครูอยู่เวร ยังไม่เข้าใจระบบนี้เลย การให้ครูอยู่เวรยาม เกิดเหตุอะไรขึ้นใครจะมารับผิดชอบชีวิตครู มาห่วงแต่ทรัพย์สินทางราชการแต่ไม่ห่วงความปลอดภัยในชีวิตครู เราจะเยียวยายังไง”

ด้านชาวเน็ตเมื่อทราบเรื่อง ต่างก็พากันออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก ทั้งในแง่ความปลอดภัยของครูสาวและวิธีการทำงานของตำรวจ อาทิ “เวลามีเรื่องคอขาดบาดตาย ตำรวจต้องรออะไรอีก”, “ให้ครูไปอยู่เวรเพื่อไร ชีวิตคนมีค่าน้อยกว่าของใน รร.รึ กล้องวงจรก็ได้มั้งสมัยนี้”, “เห็นใจคุณครูแต่ก็เสียใจกับระบบห่วยๆล้าหลังไดโนเสาร์เต่าล้านปีและข้ออ้างเห่ยๆ” และ “เข้าเวรกลางวันพอทำเนา แต่กลางคืนควรใช้กล้องวงจรนะ ไม่จำเป็นต้องมีคนอยู่เวรหรือไม่ก็รปภ.นะ”

ครูผู้ช่วย เกือบโดนข่มขืน ครูผู้ช่วย เกือบโดนข่มขืน ครูผู้ช่วย เกือบโดนข่มขืน

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button