กัน จอมพลัง เข้าช่วยเหลือเด็ก 15 ปี ถูกบังคับสูบกัญชา ก่อนถูกรุ่นพี่ 2 คนข่มขืนและถ่ายคลิปไว้ แม่เผยแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบ
กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ เดินทางมาพร้อมกับผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงเยาวชนอายุ 15 ปี หลังจากที่ถูกรุ่นพี่ 2 คน อายุ 17-18 ปี หลอกให้เสพกัญชาจนหมดสติ และก่อเหตุข่มขืนพร้อมถ่ายคลิปเอาไว้ จึงพาเยาวชนรายนี้ พร้อมกับแม่มาร้องเรียนกับปลัดกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองถูกผู้ก่อเหตุชักชวนไปเที่ยว ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน เนื่องจากเป็นเพื่อนของแฟนเก่า ก่อนที่จะมีการบังคับให้สูบกัญชา โดยบอกว่าหากไม่สูบจะไม่พากลับไปส่งบ้าน ตัวเองจึงจำยอมต้องสูบไป 1 ครั้ง จากนั้นผ่านไปเพียงไม่ถึง 5 นาที ตัวเองรู้สึกสลึมสลือ ไม่มีแรง ก่อนจะหมดสติไป มารู้ตัวอีกครั้ง รุ่นพี่ 2 คนนี้ กำลังใช้กำลังบังคับข่มขืน และมีรุ่นพี่ที่อายุ 18 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้ ตอนนั้นตัวเองพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่สู้แรงไม่ไหว ประกอบกับฤทธิของกัญชาที่ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง
ด้านแม่เยาวชนเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ลูกสาวกลับมาที่บ้านและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมดว่าถูกบังคับให้เสพกัญชาก่อนจะถูกรุ่นพี่ 2 คนนี้ข่มขืนล่วง และถ่ายคลิปไว้ พอได้ฟังก็ตกใจ จึงรีบพาลูกสาวไปแจ้งความกับตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรวังจันทน์ จังหวัดระยอง ซึ่งวันนั้นตำรวจรับแจ้งความไว้ แต่จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตัวเองมีความกังวลว่าคลิปดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ออกไป จึงอยากให้ตำรวจเร่งตรวจสอบ และตัวเองจึงมาร้องเรียนกับ กัน จอมพลัง เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดีให้
หลังเกิดเหตุตัวเองพยายามสังเกตอาการของลูกสาวมีท่าทีที่เปลี่ยนไปกลายเป็นเด็กซึมเศร้า จากที่เป็นเด็กร่าเริง ตัวเองจึงเป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกสาวเป็นอย่างมาก จึงพยายามดูเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด สำหรับเยาวชนชาย 2 คน ที่ก่อเหตุตัวเองยืนยันไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เรื่องนี้อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เรื่องนี้หลังตัวเองได้ทราบเรื่อง ก็ติดตามคดี และสอบถามไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรวังจันทน์ ทราบว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบและเรียกเยาวชนชาย 2 คนที่ก่อเหตุมาสอบปากคำ เบื้องต้นเยาวชนชายอายุ 17 ปีให้การรับสารภาพ แต่เยาวชนชายอีกหนึ่งคนอายุ 18 ปี ให้การปฏิเสธ ซึ่งคาดว่าเยาวชนที่ปฏิเสธน่าจะเป็นคนถ่ายคลิปไว้ เรายังทราบว่าทางฝั่งผู้ก่อเหตุพยายามส่งคนมาติดต่อเจรจาเพื่อขอให้ยุติการดำเนินคดีนี้
ซึ่งเรื่องตัวเองมองว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเยาวชนที่ก่อเหตุ ที่ผู้เสียหายบอกว่าถูกถ่ายคลิปไว้ ตัวเองเกรงว่าคลิปดังกล่าวอาจจะถูกแชร์ออกไป สร้างความเสียหายและกระทบต่อสภาพจิตใจของเยาวชนหญิงรายนี้
ทั้งนี้ยังฝากไปถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายกัญชาเสรีว่าให้เข้ามากำกับควบคุมดูแล เพราะขณะนี้โทษของกัญชามีให้เห็นรายวัน และเริ่มเข้าถึงกลุ่มเยาวชนมากขึ้น พร้อมฝากไปถึงกลุ่มคนที่เข้ามาคอมเมนต์ในเพจของตัวเองเมื่อวานนี้ หลังไปรับตัวน้องไปอยู่ที่เซฟเฮาส์ ซึ่งมีบางคอมเมนต์ต่อว่าเยาวชนผู้เสียหายในเชิงว่า “ไปกับเค้าทำไม” ซึ่งเรื่องนี้ตัวเองมองว่า ไม่ว่า จะไปหรือไม่ไปด้วย แต่ทุกคนก็ไม่มีสิทธิที่จะมีพฤติกรรมไปล่วงละเมิด หรือกระทำการใดๆกับ บุคคลอื่นให้เกิดความเสื่อมเสียและได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่วันนี้ทางปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พาเยาวชนผู้เสียหายและแม่เข้าไปยังศูนย์ช่วยเหลือสังคม เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพด้านใน เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก
