ชูวิทย์ แฉ ระลอกใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กเปิดความสัมพันธ์ สนธิ แทนไท เห็นพูดมากมาย แต่ไม่เคยบอกสักคำว่าเจอแทนไท รู้ทุกเรื่องแต่เรื่องตัวเองกลับไม่เล่าในรายการ คงไม่เดินไปหาคุณเอง ที่บ้านพระอาทิตย์ แต่มีนายพลตำรวจพาไป พร้อมเปิดชื่อตัวละครปริศนารายใหม่ นายพลตำรวจ ชื่อย่อ “ช” ช้าง
เรื่องนี้ยังอีกยาว หลังจากวันที่ 31 มีนาคม 2566 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตัวพ่อวงการแฉ ออกมาเคลื่อนไหว โดยหนนี้เป็นการส่งแรงกระเพื่อมระลอกใหม่ ผ่านสื่อโซเชียลในมือของตัวเอง โดยเขียนขจ้อความเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างบุคล 2 บุคคล ที่ ณ ตอนนี้ อดีตเจ้าพ่อนักธุรกิจอ่างทองคำ กำลังมีประเด็นเดินหน้าแลกหมัดแฉข้อมูลเดือดกันไปมา
เนื้อหาจากโพสต์เฟซบุ๊กของนายชูวิทย์ เริ่มด้วยการเปิดประเด็นว่า “ความสัมพันธ์ สนธิ กับ แทนไท” จากนั้นก็ร่ายยาวคู่กรณีจับข้อมูลจากทนายคนดังมาพูดทั้งหมด ไม่มีอะไรใหม่
สนธิพูดโยง จับโน่นนี่นั่นเอาข้อมูลจาก “ทนายตั้ม” มาพูดทั้งหมด ไม่ได้มีอะไรใหม่ ส่วน “เงิน 50 ล้าน ไม่ได้บอกว่าเป็นเงินสด นี่ก็ลอกการบ้านมาจากทนายตั้มอีก ผมเพิ่งเซ็นใบแต่งทนาย ให้ทนายอนันต์ชัยฟ้องทนายตั้มไปหยกๆ
สนธิอ้างทนายตั้มก็ดีแล้ว ผู้เฒ่าจะได้ไปเล่าเรื่องให้ศาลฟังว่า เอาข้อมูลมาจากไหน และเงินที่ว่าไม่ใช่เงินสด เป็นเงินอะไรอยู่ที่ไหน? อย่าเก่งแต่เล่าเรื่องเท็จ ต้องมีหลักฐานด้วย
ที่สำคัญ ความสัมพันธ์ของสนธิกับแทนไทนี่สิ เห็นสนธิพูดมากมาย แต่ทำไมไม่เคยบอกมาก่อนสักคำว่า “เจอแทนไท?” เห็นรู้ทุกเรื่อง แต่ไฉนพอเรื่องตัวเองกลับไม่มาเล่าในรายการ “สนธิทอล์ค” สักแอะล่ะครับ?
ต้องให้ผมพูดก่อน แล้วถึงมาแก้ตัว คุณบอกไม่ได้รับเงินที่แทนไทเสนอมา 10 ล้าน แถมด่ากลับ แค่พูดเอาดียกหางตัวเองหรือเปล่า ? ชัดๆ เลยดีกว่า แทนไทคงไม่เดินไปหาคุณเอง ที่บ้านพระอาทิตย์ แต่มีนายพลตำรวจพาไป ทำไมถึงไม่กล้าเอ่ยชื่อ ?
อย่างนี้สนธิไม่แน่จริง พูดไม่หมด เพราะอันที่จริงนายพลรายนี้สนิทกับคุณมาก ชื่อย่อ นายพล “ช” ผมว่า “แป๊ะลิ้ม” นั่นแหละ คงให้ต้อนเอาพวกพนันออนไลน์สีเทามาเจอ หากคุยรู้เรื่องก็รอดไป คุยไม่รู้เรื่องก็โดนกระสุนสาดใส่ ไม่ใช่ผมอย่างที่สนธิกล่าวหา เพราะผมเห็นคุณพูดซัดแต่พวกพนันออนไลน์ทุกวี่ทุกวัน
ปัดโธ่ “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” ชัดๆ ของผมรับก็บอกว่ารับ และมีหลักฐานไปบริจาคโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ มีวันที่บริจาค มีพยาน มีออกข่าว แต่ของสนธินี่สิ มันทะแม่งๆ นี่หากผมไม่เอามาพูด สื่ออย่างสนธิที่ขยันแฉจะตายไป ไม่มีคายออกจากปากให้ชาวบ้านเขาเห็นลิ้นไก่หรอก
สาธุชนลองฟังจากปากสนธิเอง ทำตัวเป็นพระเอกลิเกปากแข็ง ด่าแทนไท เช้าสายบ่ายเย็น แต่ให้เข้าไปพบ อ้างว่า “เรียกมาด่า และให้ตอบคำถาม แล้วด่าแบบเงียบๆ ด้วยนะ คนฟังคงคิดว่า “เมากัญชา” ไปแล้ว หากเรียกมา “เคลียร์” ก็ว่าไปอย่าง ถามคนอ่านดีกว่า ว่าเรียกมาด่าหรือเรียกมาเคลียร์?
แล้วทำไมไม่บอกคนฟังก่อน? เรื่องมันแปลกอยู่ครับ เชิญคอมเมนต์กันได้ เพราะสนธิชอบอ้างตัวว่าเป็น “คนดี” คำก็ “พระ” สองคำก็ “ธรรมะ” แปลกกว่าคนเทาๆ อย่างผมเยอะ ความสัมพันธ์แบบนี้.
