ไลฟ์สไตล์

‘ฮีทสโตรก’ ภัยเงียบจากอากาศร้อน อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ชวนรู้จัก ฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือ โรคลมแดด อาการป่วยช่วงหน้าร้อนที่คุกคามชีวิตเราโดยไม่ทันตั้งตัว เกิดขึ้นได้เมื่อร่างกายของเราร้อนเกินไป ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว หรือหนักถึงขั้นเสียชีวิตได้ วันนี้ไทยเกอร์เลยจะพาทุกท่าน ไปทำความเข้าใจด้วยกันว่า ฮีทสโตรก คืออะไร ต้องระวังและรักษายังไงบ้าง เพื่อจะได้เตรียมตัวดูแลตัวเองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนเมษายนนี้

ฮีทสโตรก คืออะไร ทำไมอันตรายถึงชีวิต?

โรคลมแดดคืออะไร?

ฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด คือภาวะวิกฤตที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถปรับหรือควบคุมความร้อนในร่างกายได้ ทำให้มีความร้อนที่มากเกินพอดี (Hyperthermia) โดยจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงเกินกว่า 104°F (40°C) ซึ่งเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องให้ความสนใจทันที นอกจากนี้แล้ว โรคลมแดดยังเป็นอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความร้อนที่รุนแรงที่สุดของมนุษย์ และอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อสมอง หัวใจ ไต และกล้ามเนื้อได้

Advertisements

สาเหตุของโรคลมแดด

โรคลมแดดเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเป็นระยะเวลานาน จนกลไกการระบายความร้อนของร่างกาย ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ โดยสาเหตุทั่วไปของโรคลมแดด ได้แก่

  • การออกกำลังกายอย่างหนักในสภาพอากาศร้อน
  • สัมผัสกับอุณหภูมิสูงหรือความชื้นเป็นเวลานาน
  • ภาวะขาดน้ำ
  • สวมเสื้อผ้าที่คับหรือหนักในสภาพอากาศร้อน
  • การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและปิดเป็นเวลานาน

ฮีทสโตรก สาเหตุ

อาการของโรคลมแดด

อาการของฮีทสโตรกมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่

  • อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 104 °F
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • หายใจเร็ว
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • เวียนศีรษะและสับสน
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นตะคริว
  • อาการชัก
  • หมดสติ

อันตรายจากฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด

โรคลมแดดอาจส่งผลรุนแรงและยาวนานต่อร่างกาย ซึ่งกระทบได้ในหลายอวัยวะ และอาจหนักถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยผลกระทบเบื้องต้นที่อาจพบเจอ ได้แก่

  • ความเสียหายของสมอง
  • ไตล้มเหลว
  • ความเสียหายของตับ
  • ความเสียหายของหัวใจ
  • ความเสียหายของกล้ามเนื้อ

วิธีหลีกเลี่ยงโรคลมแดด

หากอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน และกังวลว่าตัวเองจะเกิดอาการฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันร่างกายไม่ให้มีอุณหภูมิสูงเกินปกติ ได้แก่

Advertisements
  • รักษาความชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ โดยเฉพาะน้ำเปล่า
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ข้างนอกในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน
  • สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ สีอ่อน
  • หยุดพักบ่อย ๆ ในที่ร่มหรือเย็น
  • ใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวไหม้
  • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน

วิธีรักษาตัวจากฮีทสโตรก

วิธีการรักษาตัวจากโรคฮีทสโตรก

หากสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดกำลังเป็นลมแดด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ยังสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง เช่น

  • ย้ายไปยังพื้นที่ร่มเย็น มีร่มเงา
  • ถอดเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นออก
  • ใช้ผ้าขนหนูเปียกหรือน้ำแข็งประคบเย็นบนผิวหนัง
  • ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มสำหรับการเล่นกีฬา

สาระน่ารู้ของอาการฮีทสโตรก

ก่อนจากกันไป ไทยเกอร์ได้เตรียมสาระน่ารู้ เกี่ยวกับโรคฮีทสโตรก มาให้ทุกท่านได้ศึกษากัน ดังต่อไปนี้

  • ฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด อาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่ได้อยู่ในสถานที่ร้อนจัด หากกลไกการระบายความร้อนของร่างกายทำงานล้มเหลวหรือผิดปกติ
  • ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อโรคลมแดดมากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากร่างกายควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดีเท่าที่ควร
  • ยาบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นฮีทสโตรกได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์หากคุณกำลังใช้ยาและมีโอกาสที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด
  • การออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนโดยทั่วไปจะปลอดภัยหากคุณระมัดระวังอย่างเหมาะสม เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ หยุดพักบ่อย ๆ และไม่อยู่ในที่แจ้ง กลางแสงแดดนานจนเกินไป
  • ระยะเวลาฟื้นตัวจากโรคลมแดดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ซึ่งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด

อาการฮีทสโตรก

ฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ การทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสภาวะที่เป็นอันตรายนี้ได้ หากคุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวกำลังเป็นโรคลมแดด ควรไปพบแพทย์ทันที.

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button