แจ้งจับ 107 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เอี่ยว ‘จีนเทา’ มีระดับรองผู้บังคับการด้วย
สั่งแจ้งจับ 107 นาย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ออกวีซ่าให้กลุ่ม ‘จีนเทา’ พบมีตั้งแต่ระดับผู้บังคับการจนไปถึงพลตำรวจตรีที่เกษียณอายุไปแล้ว
จากกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก สั่งการให้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. ในฐานะพนักงานสอบสวน ให้ไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 107 ราย ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น ความผิดเกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการเรียกรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทานั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น ว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ผู้แทน เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเวฬุวัน โดยคณะผู้แทนฯ ได้นำหลักฐานเดินทางเข้ามาแจ้งความตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนคนที่เข้าข่ายการกระทำผิด รวมทั้งความเชื่อมโยงต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
โดยนายตำรวจที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี มีตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการ ลงไป นอกจากนี้ยังมี พล.ต.ต. รายหนึ่งซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว กับพวก ซึ่งเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรวมอยู่ด้วย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในกรณีดังกล่าวดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลจนทราบว่า กลุ่มทุนจีนสีเทาสามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายได้อย่างไร
จากการสืบสวนทราบว่า การต่อวีซ่าให้กับกลุ่มทุนจีนเทา ได้มีการใช้มูลนิธิ สมาคม หรือโรงเรียนสอนภาษาในการอ้างอิงเพื่อแนบเป็นหลักฐาน ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในการขออยู่ต่อ ซึ่งมูลนิธิหรือโรงเรียนสอนภาษาเหล่านี้ หลายที่ไม่มีการดำเนินการจริง ไม่มีการเรียนการสอนจริง หรือในบางพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองคอยช่วยอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็น การปลอมแปลงลายเซ็นฝ่ายปกครอง การใช้ชื่อมูลนิธิที่ไม่มีที่ตั้งอยู่จริง หรือแม้กระทั่งการต่ออายุวีซ่าให้โดยที่ไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เป็นต้น ซึ่งมีการตรวจพบการทุจริตในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ บก.ตม.4 และ 5 เป็นจำนวนมาก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนพบความเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจำนวนมากถึง 107 นาย