บอกบุญชาวพุทธ ชวนสวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า คาถาเมตตามหานิยมฉบับเต็มพร้อมคำแปลเพื่อเสริมบารมี จากพระเกจิชาวไทยชื่อดังจากวัดต่าง ๆ พร้อมวิธีสวดที่ถูกต้อง สามารถสวดได้หลายรูปแบบตามสะดวก ตั้งแต่ 9 จบไปจนถึง 108 จบ
นอกจากนี้ยังเปิดประวัติและที่มาของบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าให้คุณได้ทราบกันอีกด้วย อยากสั่งสมบุญบารมี เริ่มต้นได้ที่ใจ หากพร้อมแล้วขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านมาร่วมรับบุญโดยพร้อมเพรียงกัน
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า มีที่มาแต่ครั้งรัชกาลที่ 5
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า มีอีกชื่อว่า คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย เป็นคาถาทางตันตระเถรวาท สาเหตุที่คาถานี้เป็นที่นิยมในไทย เป็นเพราะช่วงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จะไปประพาสยุโรป หลวงปู่เอี่ยม แห่งวัดหนังราชวรวิหาร ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ ร.5 ให้ความเคารพนับถือ ได้มอบคาถานี้ให้ ร.5 ใช้ท่องเพื่อป้องกันพระองค์ให้แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นยอดคาถาเมตตามหานิยม ศัตรูจะแพ้ภัยตนเอง
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า พร้อมคำแปล สวดอย่างไรถึงจะได้ผล
สำหรับกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ตั้งแต่การอธิษฐานจิต ไปจนถึงการสวดมนต์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จิตของเรา หากเรามีจิตที่มั่นคง เป็นสมาธิ ว่าง และผ่อนคลายมากเท่าใด สิ่งที่เรากระทำก็ยิ่งเป็นผลมากเท่านั้น
ก่อนจะเริ่มสวด ให้ผู้สวดตั้งจิตว่า “ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า เพื่อปกปักรักษา คุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ”
จากนั้นจึงว่าคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ดังนี้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา
พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะ ปิติอิ”
บทคาถามงกุฎพระพุทธเจ้านี้ มีคำแปลว่า : ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษคุณ แห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้ว จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิ ครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า 108 จบ
สำหรับบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้า หากมีเวลามากก็สามารถสวดได้ถึง 108 จบ หรือหากต้องการสวดสั้น ๆ ก็สามารถสวด 9 จบหรือ 18 จบได้ โดยขั้นต่ำควรอยู่ที่ 9 จบ และควรชำระล้างหน้าตาให้สะอาดเรียบร้อยเสียก่อน เพราะโบราณเชื่อว่าราศีของคนไทยอยู่ที่หน้า
หากท่านต้องการว่าบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าให้ได้บารมีสูงสุด ควรกำหนดจิตให้เป็นสมาธิด้วยวิธีดังนี้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 1 : กำหนดอาราธนาพุทธนิมิตอยู่เบื้องหน้าของศีรษะของเรา และทรงพุทธนิมิตนี้เอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 2 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์หนึ่งอยู่เบื้องขวาของศีรษะของเรา และทรงพุทธนิมิตทั้งหมดเอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 3 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านหลังของศีรษะเรา และทรงพุทธนิมิตเอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 4 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านซ้าย และทรงพุทธนิมิตเอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 5 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 6 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และทรงพุทธนิมิตเอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 7 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และทรงพุทธนิมิตเอาไว้
- สวดคาถาจบครั้งที่ 8 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้ทั้ง 8 พระองค์เรียงวนรอบศีรษะของเรา
- สวดคาถาจบครั้งที่ 9 : กำหนดพุทธนิมิตพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพรึก ทุก ๆ พระองค์เป็นมงกุฎเพชรพระพุทธเจ้าทั้งเก้าพระองค์บนเศียรเกล้าของเรา
นอกจากนี้ยังมีคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าฉบับอื่น ๆ อีกด้วย ดังนี้
บทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้า หลวงพ่อฤาษีลิงดํา วัดท่าซุง
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ พุทธะมะอะอุ ทุกขัง อนัตตา สัมปจิตฉามิ (สวด 3 จบ)
บทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้า หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท
สำหรับคาถาฉบับหลวงพ่อกวย นิยมใช้เป็นคาถาเป่ากระหม่อม ผูกยันต์ สักยันต์ เสริมสิริมงคล ป้องกันภัยอันตราย
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ
พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าถือเป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าจะทำให้ผู้สวดได้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้า เมื่อพิจารณาคำกล่าวนี้ให้ดี อาจตีความได้ว่าเป็นเพราะผู้สวดจะได้ฝึกจิตให้เป็นสมาธิ มีความมั่นคง ส่งผลให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ซึ่งมงคลทั้งหมดที่กล่าวมานี้เกิดจาก “จิต” ที่ผู้สวดตั้งใจกระทำทั้งสิ้น หาใช่บทสวดที่เป็นทางลัดเพื่อไปสู่พระนิพพานแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะใจของคุณต่างหาก
ดังนั้นแล้วขอร่วมอนุโมทนาแด่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่มีใจศรัทธามา ณ ที่นี้ หากท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ ท่านสามารถนำบทสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าไปบอกบุญต่อให้ญาติสนิทมิตรสหายกันได้.
ขอบคุณข้อมูลจาก : กระดาน บอกบุญ หล่อพระ lucky4u คลังพุทธศาสนา
