ไทยลีก เริ่มสั่งตรวจสอบกรณีที่ ชลบุรี เอฟซี เจอกล้องวงจรปิดในห้องแต่งตัวที่สนามของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมรีโว่ ไทยลีก นัดล่าสุด
เมื่อวานที่ผ่านมา (29 มกราคม) บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีคิวต้องเปิดบ้านพบกับ ชลบุรี เอฟซี ในศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก ก่อนที่จะเป็นเจ้าบ้านที่เอาชนะไปได้ 2-0 แต่ก็เป็นเกมที่เต็มไปด้วยประเด็นดราม่า
เริ่มจากจังหวะที่ทัพปราสาทสายฟ้าทำประตูขึ้นนำ 1-0 ของศุภชัย ใจเด็ด ที่ถูกมองว่าน่าจะเป็นจังหวะล้ำหน้า อีกทั้งการที่ สะสม พบประเสริฐ กุนซือของทัพฉลามชล ไม่จับมือกับ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือของเจ้าบ้าน
และล่าสุดมีการเปิดเผยภาพของห้องแต่งตัวทีมเยือนที่ชลบุรี เอฟซี ใช้งาน พร้อมกับอุปกรณ์ที่ลักษณะคล้ายกล้องวงจรปิด ิตดอยู่ในห้องแต่งตัวทีมเยือน ก่อนที่ทีมงานของทีมเยือนตัดสินใจใช้เทปกาวมาปิดทับเอาไว้ เพราะกลัวว่าจะถูกบันทึกภาพต่างๆในห้องแต่งตัว ที่ถือว่าเป็นพท้นที่ส่วนตัวของฝ่ายผู้มาเยือน
ล่าสุด กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ออกมากล่าวว่า “ผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่าในห้องแต่งตัวทีมเยือนในสนาม ช้าง อารีนา มีกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎระเบียบอยู่แล้ว”
“อย่างแรกเรารอรายงานจากแมตช์คอม ว่าจะเขียนออกมาเช่นไร ทว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราจะตรวจสอบไปยัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ว่าสิ่งนี้ทำไมถึงอยู่ในห้องแต่งตัวทีมเยือนได้”
“เพราะตามกฎการแข่งขันไทยลีก ข้อ 21.7 ห้ามมีการติดตั้งกล้องในพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวในห้องแต่งตัวทีมเยือนเด็ดขาด”
ทั้งนี้ ระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันไทยลีก 1 พ.ศ.2565-66 ข้อ 21.7 ระบุว่า “ให้มีการติดตั้งวงจรปิด (CCTV) โดยรอบสถานที่จัดการแข่งขัน แต่ห้ามมิให้ติดตั้งกล้องในพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวในห้องแต่งตัวนักกีฬาฟุตบอล เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน และในเขตเทคนิคเฉพาะส่วนที่เป็นที่นั่งนักกีฬาฟุตบอลสำรอง หากไม่มีหรือไม่พร้อมในการใช้งานจะมีโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท”
ขณะที่ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท ข้อ 5.3.19 ระบุว่า “ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ มีโทษครั้งแรก : เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร, ครั้งที่ 2 : ปรับเงิน 10,000 บาท, ครั้งที่ 3 : ปรับเงินเพิ่มเป็นสองเท่า”