ประวัติ วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ 14 มกราคม อ่านที่มาของวันสำคัญ กิจกรรม ตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ หากไร้ป่ามนุษย์ก็ไร้ที่พึ่ง
วันที่ 14 มกราคม ของทุกปี ตรงกับ วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ วันสำคัญที่ประชาชนชาวไทยไม่ควรหลงลืม เพราะป่าไม้และต้นไม้ สำคัญกับชีวิตของเรามากกว่าที่เราคิด ชีวิตมนุษย์พึ่งพาป่ามากอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้เมื่อเมืองขยายมากขึ้น ป่าไม้กลับยิ่งถูกทำลายลง
ดังนั้นวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติจึงถือกำเนิดขึ้นในปี 2533 เพื่อให้คนได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของผืนป่า
ประวัติของวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
เล่าย้อนความถึงประวัติของวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504
พระราชกำหนดดังกล่าวได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจสั่งการให้สัมปทานป่าไม้สิ้นสุดลงทั้งแปลงได้
เนื่องจากเกิดอุทกภัยภาคใต้ ที่ตำบลกระทุน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2531 และวาตภัยจากพายุเกย์ที่จังหวัดชุมพร เมื่อ พ.ศ. 2532 ดังนั้นการจัดวางโครงการทำไม้ทั่วประเทศต้องยุติลงทุกโครงการและทุกพื้นที่
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรณรงค์ต่อเนื่องและระยะยาว เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้ช่วงปี พ.ศ. 2532 – พ.ศ. 2535 เป็นปีแห่งการป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ต่อมาคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้วันที่ 14 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ” โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
1. เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในชาติได้ระลึกถึงผลเสียที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
2. เพื่อต้องการอนุรักษ์ป่าไม้ที่มีอยู่อย่างจำกัดมิให้ถูกทำลายต่อไป ลด ละ เลิก การบุกรุกแผ้วถางป่าและตัดไม้ทำลายป่า
กิจกรรมในวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
กิจกรรมส่วนใหญ่ในวันนี้ มีขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ โดยกรมป่าไม้จะมีการจัดกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้
- นิทรรศการเผยแพร่ความรู้การบรรยายความรู้ในสถานศึกษา
- ประกวดวาดภาพป่าไม้
- แจกเอกสารเผยแพร่ความรู้ในการอนุรักษ์ป่าไม้
- แจกกล้าไม้แก่ประชาชน
- จัดประชุมชี้แจงแก่ประชาชน
- เชิญชวนให้ประชาชนงดเว้นการตัดไม้ทำลายป่า พร้อมทั้งร่วมกันปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ในทุกท้องที่
สำหรับใครที่ไม่สะดวกปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ก็สามารถช่วยรักษาป่าได้ด้วยการใช้กระดาษอย่างประหยัด ร่วมรณรงค์และต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า ไม่ใช้บริการสถานที่ที่มีการบุกรุกผืนป่า แม้จะเป็นแรงเล็ก ๆ แต่หากทุกคนร่วมใจก็จะสามารถยืดอายุของผืนป่าออกไป เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนรุ่นหลังได้พึ่งพาอาศัยได้อีกนานเท่านาน.
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมป่าไม้.
