วันครูกับวันไหว้ครู ต่างกันอย่างไร ส่องความหมายและกิจกรรมที่น่าสนใจ
ไขข้อข้องใจ วันครูกับวันไหว้ครู ต่างกันอย่างไร พร้อมส่องความหมายและจุดประสงค์ของกิจกรรม ทำไมเราถึงต้องมีวันครูแห่งชาติ 2566
เนื่องในโอกาสที่กำลังถึง ‘วันครูแห่งชาติ’ 16 มกราคม 2566 วันนี้เราเลยจะพาทุกท่าน ไปส่องสาระน่ารู้เกี่ยวกับวันครู ที่หลายคนมักจำสลับกับวันไหว้ครู ว่าแท้จริงแล้วทั้งสองวันนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งในเรื่องของความหมาย จุดประสงค์ และกิจกรรมที่น่าสนใจ ฉะนั้นหากใครพร้อมแล้ว อย่ารอช้า ไปส่องพร้อมกันได้เลย
เปิดความหมาย วันครู และ วันไหว้ครู
ประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยมีขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวกับครูและนักเรียนสืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือธรรมเนียมที่ปฏิบัติสานต่อกันในวันครูและวันไหว้ครู โดยมีใจความสำคัญ ดังต่อไปนี้
วันครูแห่งชาติ มีความสำคัญยังไงต่อวิชาชีพครู
วันครู เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 2488 ภายใต้รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยได้มีการกำหนดให้วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีเป็นวันครูแห่งชาติ จนเริ่มมีการจัดกิจกรรมขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2500 ณ กรีฑาสถานแห่งชาติ ประเทศไทย
ด้านความสำคัญของวันครู ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความสามัคคีและความเข้าใจอันดีงามของวิชาชีพครู โดยมุ่งหวังให้เกิดการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของครู เพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของสังคม ตลอดจนส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีศักยภาพที่ดี
สำหรับสัญลักษณ์ในวันครูแห่งชาตินั้นได้แก่ ดอกกล้วยไม้ ซึ่งถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 2539 โดยมีความหมายแฝงถึงการเอาใจใส่ และการผลิบานที่งดงาม
นอกจากนี้แล้วในการจัดงานวันครู 16 มกราคม 2566 หลายพื้นที่ยังได้มีกิจกรรมการแจกจ่ายอนุสรณ์ที่ช่วยในการระลึกถึงความสำคัญของครูหลายอย่าง อาทิ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ
วันไหว้ครู ต่างจากวันครูอย่างไร
สำหรับวันไหว้ครู มีความแตกต่างจากวันครูอยู่หลายอย่าง เพราะวันไหว้ครู ถือเป็นวันแห่งกิจกรรมที่เด็ก ๆ ต้องเข้าร่วม ซึ่งในแต่ละปีจะไม่มีการกำหนดวันที่ชัดเจน โดยแต่ละโรงเรียนจะจัดใกล้เคียงกันภายในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี หรืออาจยึดให้วันพฤหัสบดีแรกหลังการเปิดเทอมที่ 1 เป็นวันไหว้ครูก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนกิจกรรมที่จัดทำขึ้นในวันไหว้ครู มีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกศิษย์ ได้เข้ามากราบไหว้บูชาครู ผู้มีพระคุณของตัวเอง โดยเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่แสดงถึงความเคารพกตัญญูของเด็กต่อพระคุณที่สาม ซึ่งการไหว้ครูจะจัดขึ้นในพื้นที่ของสถานศึกษา โดยเด็ก ๆ จะได้ทำพานไหว้ครูร่วมกันเพื่อเป็นตัวแทนของห้อง โดยจะแบ่งเป็นพานธูปเทียนสำหรับเด็กผู้ชาย และพานดอกไม้สำหรับเด็กผู้หญิง
สำหรับดอกไม้ที่นิยมใส่ในพานไหว้ครู ก็มีความหมายที่ลึกซึ้งด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งดอกไม้ที่นิยมใช้กันในกิจกรรมไหว้ครู มีดังต่อไปนี้
- ดอกมะเขือ หมายถึง การอ่อนน้อมถ่อมตน และความพร้อมในการเรียนรู้ เพื่อเจริญงอกงามต่อไป
- หญ้าแพรก หมายถึง สติปัญญาและความงอกงาม
- ดอกเข็ม หมายถึง สติปัญญาความรู้ที่เฉียบแหลม
- ข้าวตอก หมายถึง ความมีระเบียบวินัยของลูกศิษย์
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่า แม้วันครูและวันไหว้ครู จะมีชื่อเรียกที่คล้ายคลึงกัน แต่วัตถุประสงค์ในการจัดงาน กิจกรรมที่ทำในวันดังกล่าวมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉะนั้นในวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่กำลังจะถึง หวังว่าจะไม่มีใครสับสนความหมายและกิจกรรมที่ต้องทำในวันครูแห่งชาตินี้นะ.