ประวัติ ‘เจียง เจ๋อหมิน’ อดีตประธานาธิบดีจีนรุ่นที่ 3 ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 96 ปี
เปิดประวัติ “เจียง เจ๋อหมิน” อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำรุ่นที่สามแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน บุคคลสำคัญที่วางรากฐานปูทางให้จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกในด้านเศรษฐกิจ และปฏิรูประบบสวัสดิการจีนใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนส่งผลให้จีนได้รับการยอมรับมาตรฐานในระดับนานาชาติ
รู้จักอดีตประธานาธิบดี ผู้นำจีนผงาดโลก “เจียง เจ๋อหมิน” ผู้นำจีนที่สร้างประวัติและผลงานมากมาย จนส่งผลให้จีนมีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจโลก ได้รับรายงานเมื่อวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ว่าถึงแก่อสัญกรรมในอายุ 96 ปี ด้วยโรคลูคีเมีย และการทำงานของอวัยวะหลายส่วนล้มเหลวตามความชราภาพ ในเวลา 12.13 น. ที่นครเซี่ยงไฮ้ สำหรับ เจียง เจ๋อหมิน มีประวัติดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างปี ค.ศ. 1989-2002 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนระหว่างปี ค.ศ. 1993-2003 เป็นหนึ่งในผู้นำจีนที่มีวิสัยทัศน์และแผ่ขยายอำนาจเศรษฐกิจจีนจนกลายเป็นมหาอำนาจการค้าโลกในปัจจุบัน บอกเลยว่าอดีตผู้นำจีน เจียง เจ๋อหมิน มีประวัติชีวิตและเส้นทางการเมืองที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
อ่านประวัติ “เจียง เจ๋อหมิน” ชาวเมืองหยางโจว
เจียง เจ๋อหมิน (จีนตัวเต็ม: 江澤民, พินอิน: Jiāng Zémín) เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1926 ที่เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งการยึดครองจากญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้พ่อของ เจียง เจ๋อหมิน เสียชีวิต และถูกลุงของเขานามว่า เจียง ซางชิง รับไปเป็นลูกบุญธรรมในเวลาต่อมา
เมื่อ เจียง เจ๋อหมิน เติบโตเข้าสู่วัยรุ่นก็ได้เลือกเรียนวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยกลางแห่งชาติ เมืองหนานจิง (นานกิง) และได้ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉียวตง หรือก็คือมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทงในปัจจุบัน กระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าในปี ค.ศ. 1947
ระหว่างใกล้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี เจียง เจ๋อหมิน ได้เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน และในปี ค.ศ. 1950 เจียง เจ๋อหมิน ก็ได้เริ่มต้นฝึกงานที่ Stalin Automobile Works ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นทำงานในบริษัทรถยนต์ฉางชุนไม่นานก็ย้ายไปเริ่มต้นทำงานเข้าสู่เส้นทางการเมืองรับราชการในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีจีน
ต่อมาสาธารณรัฐประชาชนจีนตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายอีกครั้ง หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีจีน เติ้ง เสี่ยวผิง ใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงใน เหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมนองเลือด ทำให้สจีนถูกประณามจากนานาชาติส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำ
จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1989 “เจียง เจ๋อหมิน” ได้ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก่อนจะเปลี่ยนมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี ค.ศ. 1993 ก็ได้เริ่มต้นแก้ปัญหาระบบสวัสดิการใหม่ และวางรากฐานเศรษฐกิจจีนให้พัฒนาจนโดดเด่นในเวทีนานาชาติ พร้อมขยายอิทธิพลทางการค้าให้เติบโตจนแผ่ขยายไปทั่วโลก
หลังจากที่ประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน นำพาจีนออกจากความวุ่นวายที่อดีตประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยวผิง ได้สร้างไว้จนส่งผลให้จีนไม่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก ด้วยการเป็นผู้นำในการรับส่งมอบเกาะฮ่องกงจากอังกฤษและรวมคืนจีนเมื่อปี ค.ศ. 1997 จากนั้น เจียง เจ๋อหมิน ก็ได้พาสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ได้สำเร็จ เมื่อปี 2001 ส่งผลให้มีการลงทุนจากบริษัทต่างประเทศหลายแห่ง
ทั้งนี้ในช่วงที่ เจียง เจ๋อหมิน บริหารสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็ได้มีการเดินทางไปพบปะกับผู้นำหลายประเทศ อาทิ ผู้นำสหรัฐอเมริกาอย่าง บิล คลินตัน และ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และผู้นำจากชาติตะวันตกอีกหลายประเทศ
แม้ว่า เจียง เจ๋อหมิน จะปูทางเศรษฐกิจจีนจนเป็นที่ประจักษ์ในสายตานานาชาติ กระนั้นเขาก็ยังถูกมองว่ามีนโยบายในการปราบปรามผู้เห็นต่าง และกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในจีน และหลังจากที่ เจียง เจ๋อหมิน มอบตำแหน่งประธานาธิบดีจีนให้กับ หู จิ่นเทา หลังหมดวาระในปี ค.ศ. 2004 ยังมีข่าวลือว่า เจียง เจ๋อหมิน เป็นผู้บงการชักใยการเมืองอยู่เบื้องหลัง และมีชาวจีนหลายคนเชื่อว่า เจียง เจ๋อหมิน เป็นคนวางรากฐานการคอร์รัปชันในระบบการเมืองมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย.