“แพรรี่ ไพรวัลย์” ร้องสอบมรรยาท “ทนายธรรมราช” ปมพาดพิงเพศสภาพ
แพรรี่ ไพรวัลย์ ไม่ทน! ร้องเรียนสภาทนายความให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ทนายธรรมราช ว่าผิดมรรยาททนายความหรือไม่? ปมยุ่งเกี่ยวการวิวาทะแพรรี่กับพระชาตรี เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร
จากกรณีการวิวาทะของพระชาตรี เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร กับแพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ที่ดูเหมือนจะจบลงแล้ว แต่กลับมีทนายความรายหนึ่งได้ออกมาประกาศว่า มีการแจ้งความดำเนินคดีกับแพรรี่ในข้อหาดูหมิ่นพระชาตรีหรือคณะสงฆ์ รวมถึงพูดพาดพิงเพศสภาพนั้น ล่าสุด แพรรี่ ไพรวัลย์ได้เดินทางเข้าร้องเรียนสภาพทนายความให้ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวผิดมรรยาททนายความหรือไม่?
29 กันยายน 2565 ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้ชี้แจงถึงการเข้าร้องเรียนสภาทนายความ ตอนแรกคิดว่าประเด็นวิวาทะที่เป็นกระแสในทางสังคมน่าจะจบลงแล้ว เพราะตนกับพระที่มีวิวาทะกันก็ได้เลิกแล้วต่อกัน แต่พอมีทนายท่านหนึ่งเข้ามามีส่วนในเรื่องนี้ แจ้งความและไลฟ์สดพาดพิงตนเอง แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นใคร
แพรรี่ ไพรวัลย์มองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหรือเปล่า หรือเป็นการทำผิดมรรยาททนายความหรือไม่ จึงขอใช้สิทธิ์เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความให้ตรวจสอบเรื่องมรรยาททนายความ ส่วนคดีความอาญาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับวันนี้
สิ่งที่แพรรี่รับไม่ได้คือการพาดพิงเพศสภาพ แม้แต่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ต้องเป็นถึงทนายยังทราบดีว่าเรื่องเพศสภาพคือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ควรยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพื่อทำให้ตนรู้สึกเสื่อมเสียเกียรติ
ด้านดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความเผยว่า จากการเข้ามายื่นเรื่องของแพรรี่ ร้องเป็นคดีมรรยาทแก่ทนายความบางท่าน ตนยังตอบไม่ได้ว่าผิดหรือไม่ผิด เพราะต้องมีกระบวนการในการสอบสวน หากจะรับเป็นคดีมรรยาทจะต้องมีการสอบสวนก่อน ถึงจะสามารถทราบข้อเท็จจริงได้
ส่วนบทลงโทษ หากสรุปข้อเท็จจริงแล้วทนายความท่านใดได้ทำผิดข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จะมีบทลงโทษคือ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ภาคทัณฑ์ 3.พักใบอนุญาตการเป็นทนายความเป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี 4.ลบชื่อจากการเป็นทนายความ ซึ่งการเป็นบทลงโทษที่รุนแรงที่สุด
สำหรับความคืบหน้าในการมาร้องเรียนสภาทนายความของแพรรี่จะสิ้นสุดลงอย่างไร คงต้องรอให้คณะทำงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่ และทนายคนที่เป็นประเด็นจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงของตัวเองหรือไม่ต้องติดตาม