ข่าว

กทม. ป้องกัน ฝีดาษลิง เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ

กทม. เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ ฝีดาษลิง เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติ เฝ้าระวัง ควบคุมโรค ชี้มาตรการที่ใช้ป้องกันโควิด19 ยังใช้ป้องกันฝีดาษวานรได้

วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ออกมาให้ข้อมูลการเตรียมแผนเผขิญเหตุและป้องกัน โรคฝีดาษลิง ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก

เนื้อหาจากโพสต์ของเพจกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ระบุ เวลานี้โรงพยาบาลในสังกัด กทม. เฝ้าระวังคนไข้ทั้งห้องฉุกเฉิน (ER) และผู้ป่วยนอก (OPD) รวมถึง รพ.ที่มีคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกโรคผิวหนัง หากพบผู้ป่วยติดเชื้อจะเร่งแยกกักตัวเฉพาะโรค

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคแก่บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ตามมาตรการ Universal Prevention (UP) คือ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยเฉพาะลิง และหนู
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง รวมถึงลมหายใจและสิ่งของของผู้ป่วย
  • หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลทำความสะอาดทุกครั้ง หลังสัมผัสสัตว์ หรือสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
  • ใช้ผ้าปิดจมูกและปาก เมื่อไปในสถานที่เสี่ยงมีโรคระบาด
  • หากพบผู้ป่วยให้แยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากผู้อื่นทันที

โรคฝีดาษลิงจะมีอาการคล้ายโรคฝีดาษ ดังนี้

  1. มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ
  2. ต่อมน้ำเหลืองโต
  3. ปวดกล้ามเนื้อและอ่อนเพลีย บางกรณีอาจมีอาการไอหรือปวดหลังร่วมด้วย
  4. หลังจากมีไข้ประมาณ 1-3 วัน ผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้นโดยเริ่มจากใบหน้าแล้วแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย จากนั้นจะกลายเป็นตุ่มหนอง และสุดท้ายจะมีสะเก็ดคลุมแล้วหลุดออกมา
  5. อาการป่วยดังกล่าวจะเป็นอยู่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้
  6. กรณีผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำหรือมีโรคประจำตัว อาจเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หรือเสียชีวิต

ทั้งนี้ ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะ และหลังจากเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด ให้สังเกตอาการตนเอง โรคนี้เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิด ไม่ได้ติดง่าย มาตรการที่ใช้ป้องกันโควิด19 ยังใช้ป้องกันฝีดาษวานรได้

โรคฝีดาษลิง วิธีป้องกัน
ภาพ Facebook กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
ฝีดาษลิง กทม
ภาพ Facebook กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button