ชวนดูหนัง รีวิว Minions: The Rise of Gru ย้อนวันวานความน่ารักของเจ้ามินเนี่ยน แก๊งโตเกียวบานาน่า และกรู บอสตัวจิ๋ว แถม Easter Egg เพียบ
เพิ่งเข้าโรงกันไปสด ๆ ร้อน ๆ กับอนิเมชั่นสุดฮา ที่สร้างเสียงหัวเราะ ไวรัล และมีมต่าง ๆ ไว้มากมายอย่างเรื่อง Minions: The Rise of Gru หรือ มินเนี่ยน 2 นั่นเอง งานนี้ใครเป็นแฟนคลับของ 3 ตัวป่วนอย่าง เควิน สตวร์ท และบ็อบต้องไม่พลาด วันนี้ The Thaiger จะพาทุกคนไปรีวิวหนังเรื่องนี้กัน ขอแอบบอกว่าอีเตอร์เอกเพียบ
- รีวิว The Boys 3 EP.6 ‘HEROGASM’ เมื่อเหล่าฮีโร่ล่มสลาย บทสรุปปิดท้ายซีซั่น 3
- รีวิว Man Vs Bee เจ้าผึ้งวุ่นวาย กับนายมิสเตอร์บีน ซีรีส์เบาสมอง แต่ขำปวดกราม
- รีวิว Jurassic World 3 CG ไม่มีผิดหวัง บทสรุปหนังไตรภาคที่แฟนจูราสสิครอคอย
รีวิว Minions: The Rise of Gru หนังอนิเมชันเอาใจแฟน ๆ มินเนี่ยน ผสานวัฒนธรรม 2 ฝั่งทวีป
| เรื่องย่อ Minions: The Rise of Gru
สำหรับเนื้อเรื่องย่อ ๆ ของมินเนี่ยน 2 เป็นเรื่องราวต่อจากหนังเรื่อง มินเนี่ยน ภาคแรก ที่จบตอนท้ายด้วยการที่เหล่ามินเนี่ยนได้เลือกเจ้านายใหม่อย่าง กรู (Gru) เด็กสุดแสบที่มีความฝันว่าอยากจะเป็นยอดวายร้าย
งานนี้เหมือนฟ้าจะเห็นใจกรู เขาได้รับคำเชิญให้มาสัมภาษณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกคนใหม่ของ แก๊งส์ 6 โฉด (Vicious 6) แต่สุดท้ายก็โดนเทเพราะความเด็กน้อยของเขานั่นเอง งานนี้ บอสตัวจิ๋ว อย่างกรูไม่ยอมง่าย ๆ ขโมยอัญมณีล้ำค่าจากแก๊ง 6 โฉดมา ทำให้กรูนั่นต้องถูกตามล่าโดยไอดอลของเขาซะเอง
รอบนี้ กรู ก็ได้รับความช่วยเหลือนต่าง ๆ มากมายจากแก๊งมินเนี่ยนที่นำทีมโดย เควิน สตวร์ท และบ็อบ ที่เหมือนจะช่วยแต่กลายเป็นป่วนซะมากกว่า เพราะเจ้ามินเนี่ยนทั้ง 3 ต้องเข้ารับการฝึกกังฟู เพื่อช่วยบอสตัวน้อยของพวกเขานั่นเอง เรื่องราวความปั่นป่วนจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามกันได้ที่โรงภาพยนต์
| รีวิว Minions: The Rise of Gru หลังดูจบ
มาในภาคนี้ ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่าง Illumination Entertainment ได้ผู้กำกับมาเป็นแพ็คถึง 3 คนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ไคล์ บัลดา (จาก Minions), แบรด อเบลสัน (จากหนังสั่น Yellow Light) และ โจนาธาน เดล วัล (จาก The Secret Life of Pets 2) กลายเป็น 3 สไตล์ที่ลงตัวแบบบอกไม่ถูก
ในตัวเนื้อเรื่องของ Minions: The Rise of Gru ยังคงเน้นไปที่ความวายป่วง ความซุกชนของสมนุตัวน้อยอย่างแก๊งมินเนี่ยนทั้ง 3 อย่าง เควิน สตวร์ท และบ็อบ เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครมากขึ้น ที่มาที่ไปกว่าที่เหล่ามินเนี่ยนจะมาเป็นลูกสมุนของจอมวายร้ายใน มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด (Despicable Me)
ในส่วนของงานภาพทาง อิลลูมิเนชัน ยังคงคุณภาพได้ดีตามเดิม แม้จะไม่ได้ดีขึ้น แต่ถือว่ายังคงมารฐานเอาไว้ มีการแอบใส่ อีสเตอร์เอก (Ester Egg) ให้เราได้นึกย้อนไปถึงหนังเรื่องต่าง ๆ ในแฟรนไชน์ของหนังเรื่องนี้ทั้ง สการ์เล็ต โอเวอร์คิลล์ (Scarlet Overkill) จากมินเนี่ยนภาคแรก วิกตอร์ (Victor) คู่ปรับตลอดกาลของกรู
| เมื่อแก๊งมินเนี่ยน มาเรียนกังฟู
อีกหนึ่งจุดเด่นในภาค The Rise of Gru ที่นอกจากฉากขับเครื่องบินชวนหวาดเสียวแล้วนั้น ก็คือการที่ เควิน สตวร์ท และบ็อบ ต้องเข้าฝึกวิชากังฟูจากปรมาจารย์วัดเส้าหลิน เพื่อนำวิชามาต่อสู้กับ แก๊งส์ 6 โฉด ที่จ้องจะทำร้ายบอสตัวจิ๋วอย่างกรู
ในภาคนี้จะมีการผสมผสานเรื่องความเป็นวัฒนธรรมเอเชียใส่เข้าไปค่อนข้างเยอะพอสมควร ทั้ง 12 นักษัตร วันตรุษจีน การเชิดสิงโตในเทศกาลต่าง ๆ
| ให้คะแนนรีวิว Minions: The Rise of Gru 8/10
หลังดูหนังจบเรื่องนี้ โดยส่วนตัวแอดให้คะแนนไปที่ 8/10 ด้วยความที่อนิเมชั่นจากค่าย อิลลูมิเนชัน มันจขะมีสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างตายตัวอยู่แล้ว รวมทั้งเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย ทำให้สามารถดูได้เพลิน ๆ แบบไม่ต้องคิดเยอะ
อีสเติอร์เอกที่ใส่มา อาจมองได้ว่าเป็นแฟนเซอร์วิส ให้แฟน ๆ ได้ร้องว้าว! นี่ไงคนนี้จากภาคนี้ เดี๋ยวคนนี้ก็ไปเป็นคนนั้นต่อในเรื่องนู้น ซึ่งก็ทำให้เราได้สนุกอยูบ้างในการดู แต่ไม่ได้ถึงขนาดต้องนั่งจับผิด ตั้งสมการมัลติเวิร์สเหมือนหนังซุปเปอร์ฮีโร่หรอกนะ 555
สิ่งหนึ่งที่ทำให้แอดเลือกที่จะเข้าดูหนังเรื่องนี้ก็เพราจะเข้าไปชมความปวยป่วงของเหล่ามินเนี่ยนเนี่ยแหละ ซึ่งก้ไม่ผิดหวังจริง ๆ แต่ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนโดนตกอาจจะเป็น ออตโต้ มินเนี่ยนพูดมากตัวกลม ต้นตอของเรื่องทั้งหมดนี่เอง เห็นน้องซื่อ ๆ อย่างนี้ แต่ความจริงน้องรักเจ้านายกับเพื่อนมาก ๆ เลยนะ
