ข่าวข่าวภูมิภาค

เร่งดัน ระบบบิ๊กดาต้าฐานข้อมูลเกษตร 77 จังหวัด

กระทรวงเกษตรฯ เร่งพัฒนาระบบบิ๊กดาต้าฐานข้อมูลเกษตร 77 จังหวัด พร้อมบริการภาครัฐออนไลน์เต็มรูปแบบ

ความคืบหน้าอาทิ ขับเคลื่อนบิ๊กดาต้า (Big Data) และ รัฐบาลเทคโนโลยี (Gov Tech) ล่าสุด “นายอลงกรณ์ พลบุตร” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ระบุ อยู่ระหว่างกำลังเร่งเดินหน้าโครงการพัฒนาฐานข้อมูล (Big Data) ระดับจังหวัด 77 จังหวัดเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลและการพยากรณ์ข้อมูล

โดยให้หน่วยงานส่วนกลางและพื้นที่เชื่อมโยงชุดข้อมูลจัดทำเป็นบัญชีข้อมูลตามมาตรฐานของสำนักงานรัฐบาลดิจิทัล และได้จัดทําเว็บแอปพลิเคชันระบบบริการภาครัฐ ( Web Application) เพื่อเป็นช่องทางกลางในการเข้าถึงบริการ (e-Service ) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยระบบบริการภาครัฐ เพื่อการสืบค้นและสามารถเข้าถึงงานวิจัย ตลอดจนรายชื่อองค์ความรู้เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมโดยผู้ใช้งานสามารถค้นหาระบบ e-Service ที่ต้องการได้ทันที และระบบจะเชื่อมโยงไปถึงระบบ e-Service

อีกทั้งรับทราบผลการดำเนินงานของสถาบันเกลือทะเล ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ในฐานะศูนย์ AIC ประเภทศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านเกลือทะเล ซึ่งมีการทำยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการด้านเกลือทะเลไทย เพื่อขับเคลื่อนสู่การทำนาเกลือดีที่เหมาะสมและยกระดับแหล่งทำนาเกลือทะเลสู่มรดกโลก รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างแพลตฟอร์มการขาย ด้านเกษตรอัจฉริยะ การพัฒนาคุณภาพและคุณสมบัติผลิตภัณฑ์เกลือ ระบบการจำหน่ายโลจิสติกส์ และการจัดเก็บข้อมูล และมาตรฐาน GAP GMP ฮาลาล โดยมุ่งหวังเป็นแหล่งผลิตเกลือทะเลไทยครบวงจร Thai Sea Salt ให้ได้ภายในปี 2570 เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ยังมีการเน้นย้ำ เรื่องของการขับเคลื่อนปฏิรูปภาคเกษตรของปีนี้ว่า มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงระดับพื้นที่โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดและอำเภอ

รวมทั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนแห่งชาติ ให้จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล 7,255 ตำบลทั่วประเทศ เป็นกลไกใหม่ที่ลงลึกถึงหมู่บ้านและชุมชนเป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นการสร้างจุดเปลี่ยนให้กับภาคเกษตรกรรมของไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะนำเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมของศูนย์ AIC ไปใช้ ต่อยอดและขับเคลื่อนภาคการเกษตรในระดับพื้นที่อย่างน้อย 1 จังหวัด 1 อำเภอ 1 ตำบล 1 เทคโนโลยี 1 แปลงอัจฉริยะและพัฒนา สู่การเป็น Start up และ SME ด้านการเกษตร เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยจากศูนย์ AIC ได้จริง อีกทั้งจะเป็นการพลิกโฉมประเทศสู่การเป็นประเทศพัฒนาต่อไปด้วย

ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button