ข่าวข่าวภูมิภาค

เพลีย! คาร์ซีทขึ้นราคา ผู้ปกครองรุมจวกร้านค้าฉวยโอกาส

หลังจากที่ราชกิจจาฯ ประกาศกฎหมายว่าด้วย คาร์ซีท นั้น ล่าสุดผู้ปกครองก็พบว่า คาร์ซีทขึ้นราคา ชี้รัฐบาลออกกฎหมายต้อง หามาตรการช่วยเหลือด้วย

กรณีที่ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ซึ่งในช่วงหนึ่งมีใจความสำคัญว่า “คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัย (คาร์ซีท) สำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ” และมีโทษปรับถึง 2,000 บาทหากฝ่าฝืน

ล่าสุด เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan ได้ออกมาโพสต์ระบายว่า ราคาคาร์ซีท หรือ Car Seat พุ่งทะยานสูงขึ้นมาก หลังจากที่มีการประกาศ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว

โดยทางเพจได้พูดถึงประเด็นดราม่าคาร์ซีทขึ้นราคาว่า “เกินไปมากอ่ะ

เราจะเปลี่ยน car seat ให้พสุเพราะโตแล้ว จะเปลี่ยนมาใช้เหมือนของพระพาย ซึ่งตอนนั้นเราซื้อของพระพายแค่ 5,400 เองของเด็กโต จะซื้อรุ่นเดียว สีเดียวกันเป๊ะๆเลย !

สองวันก่อน 6,3xxx วันนี้ 8,9xx !!! เพื่อ!!

เห็นด้วยกันกฎหมายนะ เราเองก็ใช้ตลอด แรกเกิด -8 ปีแล้ว ไม่เคยไม่ใช้ แต่รบ.ต้องออกมาตรการช่วยเหลือผู้ปกครองด้วย ของแพงขึ้นแบบนี้มันไม่แฟร์อ่ะ

ควรลดภาษีนำเข้า | ลดราคาของบ้างก็ดีนะ | แคมเปญลด แลก เอาอันเก่ามาแลก ซื้อรถแถมคาร์ซีส หรือลงทะเบียนแจกให้คนที่ลงทะเบียนผ่านรัฐ เพื่อช่วยกันช่วงแรกๆมันควรมีอ่ะ!

Car seat ตอนลูกเราเล็กๆ เคยโดน 39,xxx ต่อชิ้น โตมาอีกหน่อย 17,xxx ต่อชิ้น …. แล้วเราลูกสอง คิดดูสิ
ผลักภาระให้ปชช. ทั้งนั้นเลย

ที่ญป/ หรือ ยุโรปถูกกว่ามากจริงๆ ฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ แย่มากเลยแบบนี้ ! ออกกฎหมายมา แต่ควรออกมาตรการ support และแก้ไขปัญหาฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าด้วยค่ะ ! แม่เพลีย!”

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตอีกส่วนก็ยังได้ระบุด้วยว่า เลี่ยงซื้อคาร์ซีทราคาถูก เนื่องจากคาร์ซีทที่ราคาถูกมากๆอาจจะใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพและเป็นอันตรายกับลูกน้อยหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button