อธิบาย Soft Power คือ อะไร? หลังจากระเบิดความปังด้วยสกิลการแร็ปของแร็ปเปอร์สาวสัญชาติไทย “MILLI” ที่มาพร้อมเสียงฮือฮาจากการกิน “ข้าวเหนียวมะม่วง” โชว์บนเวทีคอนเสิร์ตระดับโลกอย่าง Coachella ที่เล่นเอาตลาดข้าวเหนียวมะม่วงในไทยค้าขายกันอย่างคึกคักหลังมีกระแสในทวิตเตอร์ #ข้าวเหนียวมะม่วง ออกไป
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังนับว่าเป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมการกินข้าวเหนียวมะม่วงให้กลายเป็นสินค้าส่งออกสู่สายตาของนานาชาติ แม้ของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วง หรือ Mango Sticky Rice จากเมืองไทยเราจะเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติมากอยู่แล้วก็ตาม โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็น Soft Power ที่ช่วยดันให้การกินข้าวเหนียวมะม่วงยิ่งเป็นกระแสมากขึ้น
ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า Soft Power คืออะไร ทำไมถึงสามารถเปลี่ยนให้วัฒนธรรมหนึ่งให้กลายเป็นสินค้า และสามารถเข้าสู่ตลาดของวัฒนธรรมชาวต่างชาติได้ วันนี้ทาง The Thaiger มีคำตอบมาฝากกัน
ทำไมโชว์กินข้าวเหนียวมะม่วงของ MILLI ถึงกลายเป็น Soft Power บนเวทีคอนเสิร์ตระดับโลกอย่าง Coachella
| Soft Power คือ อะไร ทำไมถึงเรียกว่า ‘อำนาจอ่อน’
Soft Power (อำนาจอ่อน หรือ อำนาจละมุน) คือ การขยายอิทธิพล การเปลี่ยนแปลงความคิด การแทรกซึมทัศนคติ การทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อื่น โดยไม่ได้ใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ (Hard Power) อย่างอำนาจเศรษฐกิจ อำนาจทางการทหาร เพื่อบีบบังคับให้ประเทศต่าง ๆ ต้องยอมปฏิบัติตามสิ่งที่เราต้องการ
ซึ่งตัวอย่างที่เราเห็นชัดมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “อนิเมะ” หรือ “มังงะ” จากญี่ปุ่น “K-Pop” หรือ “K-Series” จากเกาหลี โดยสิ่งที่ยกตัวอย่างไปนั้นเป็นสื่อชั้นดีที่นำพาความคิดของผู้รับสารให้เป็นไปตามที่สื่อนั้นแสดงออกมา และทั้งญี่ปุ่นกับเกาหลีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวัฒนธรรมที่ถูกสอดแทรกอยู่ใน K-Pop หรือ อนิเมะ นั้นส่งอิทธิพลต่อโลกนี้อย่างไร
| Soft Power การกินข้าวเหนียวมะม่วงที่อยู่ในความทรงจำคนทั้งโลก
ปรากฏการณ์ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่เกิดจากแร็ปเปอร์สาวชาวไทยอย่าง MILLI ก็ถือว่าเป็นหนึ่งใน Soft Power เช่นกัน เพราะการกินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่แต่ละชาติมีไม่เหมือนกัน ถูกเผยแพร่บนเวทีระดับนานาชาติ อย่างน้อยที่สุดแล้วแม้อาจจะมีชาวต่างชาติรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของ “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นส่วนน้อย แต่ภาพจำของการกินของหวานจากประเทศไทยที่เรียกว่า “Mango Sticky Rice” ก็ถูกบันทึกลงในความทรงจำของผู้พบเห็นเรียบร้อยแล้ว
แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า Soft Power จากศิลปิน MILLI นั้นทรงพลังขนาดไหน เพราะนาทีที่ภาพของการกินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวที Coachella ปรากฏสู่สายตาคนทั้งโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราเองนั้น ก็เกิดแรงกระเพื่อมที่ทำให้การกินข้าวเหนียวมะม่วงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในทันที ณ ขณะที่ Live สดบนเวทีกำลังออกอากาศ
| กว่าจะมาเป็น Soft Power ผ่านวัฒนธรรมการกิน
อันที่จริงแล้วอาหารไทย หรือ สตรีทฟู้ดของประเทศไทย เป็นสิ่งที่เลื่องชื่อลือนามสำหรับชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะรับชมจากสื่อไหน ๆ หากถามว่าชอบอาหารอะไรของไทย เราก็มักจะได้ยิน “ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ส้มตำ” อยู่ในรายชื่อแรก ๆ อย่างแน่นอน
ด้านของหวานเองก็เช่นกันที่จะหนีไม่พ้น “ข้าวเหนียวมะม่วง” ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วงนั้นก็สะสมชื่อเสียงของตนเองอยู่มานานพอสมควร เพียงแต่การถูกผลักดันอีกครั้งบนเวทีระดับโลกจึงทำให้กลายเป็นกระแสที่มาแรงเกินต้านได้ไม่ยาก อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำภาพจำของขนมหวานไทยที่ขึ้นชื่อว่าต้องเป็นข้าวเหนียวมะม่วงอีกด้วย
กล่าวโดยสรุปแล้ว Soft Power เป็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ทัศนคติ และความนึกคิดของผู้คน โดยที่เจ้าของวัฒนธรรมนั้นแทรกซึมความเป็นตัวเองลงไปในสื่อหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ชาวต่างชาติสามารถรับรู้ได้
ซึ่งอำนาจอ่อน หรือ Soft Power เองนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ระยะเวลาในการแทรกซึมเข้าสู่ความคิดของผู้คน โดยหากมีอำนาจหรือกำลังจากรัฐบาลช่วยสนับสนุนก็จะทำให้อำนาจอ่อนเหล่านั้นถูกเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็วมากขึ้น
ดังนั้น ชนชาติใด หรือประเทศใด ที่ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมวัฒนธรรมจากรัฐบาล ก็ย่อมที่จะได้เปรียบทางการเผยแพร่วัฒนธรรมมากกว่าชนชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนวัฒนธรรมที่ร่วมสมัยกับคนทั้งโลกย่อมจะทำให้เข้าถึงความคิดได้เร็วมากกว่าวัฒนธรรมที่ถูกแช่แข็งจนล้าหลัง