สรุปดราม่า นักร้องขาพิการขู่โดดสะพาน เล่าถูกเมียทำร้าย อยากกลับ สุพรรณ

Nateetorn S.เผยแพร่: 12 เม.ย. 2565 10:09 น.| อัปเดต: 12 เม.ย. 2565 15:24 น.

114 1 minute read

สรุปดราม่า นักร้อง หนุ่มพิการขู่โดดสะพาน หวังฆ่าตัวตาย เจ้าตัวเล่า ถูกเมียทำร้ายและถูกรีดเงิน ด้านเมียออกมาแฉ กลายเป็นหนังคนละม้วน

จากกรณีที่ นายจักรพงศ์ ชายพิการวัย 39 ปีที่ประกอบอาชีพร้องเพลงเปิดหมวก กำลังจะกระโดด สะพานพระราม 4 หวังฆ่าตัวตาย ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากพลเมืองดี จนทำให้พ้นอันตราย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 เม.ย. และกลายเป็นกระแสข่าวดัง

โดย นายจักรพงศ์ เล่าว่าสาเหตุที่ตนจะกระโดดฆ่าตัวตายนั้น เป็นเพราะว่า ตนถูกภรรยา หรือ นางทนงกร อายุ 58 ปี ภรรยา ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง แถมบังคับให้ต้องแบ่งเงินจากการเปิดหมวกร้องเพลง ซึ่งภรรยาเอาเงินไปใช้กับผู้ชายคนอื่น แถมนำขาเทียมไปเก็บไว้ทำให้เดินไปไหนมาไหนไม่ได้ พร้อมแสดงเจตจำนงว่าอยากกลับบ้านไปอยู่กับญาติที่สุพรรณบุรี

หนุ่มพิการเล่าอีกว่า ตนอยู่กับเมีย มา 3 ปี อยากจะหย่ากับเมีย ช่วงที่อยู่กินกันก็โดนบังคับ ตอนที่แม่ตายก็ไม่ได้กลับมาร่วมงานศพ พ่อก็พิการทรุดหนัก ตอนนี้พี่สาวอยู่กับพ่อและคนในครอบครัวอีกรวม 7 คน มีพ่อ พี่สาว พี่เขย ลูก 3 คน รายได้น้อยไม่พอกับรายจ่าย ทำให้บ้านโดนตัดไฟฟ้ามา 5 เดือนแล้ว

ซึ่งจากกระแสข่าวดังกล่าว ก็ได้ทำให้ประชาชนเกิดความสงสาร ซึ่งทางผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไทยรัฐได้พาตัว นายจักรพงศ์ เปิดบัญชีธนาคาร และเปิดให้ประชาชนสามารถบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ ชายพิการคนนี้ นอกจากนี้ นายจักรพงศ์ ยังมีความสามารถซ่อมจักรเย็บผ้าได้ อีกด้วย

หนังคนละม้วน?

อย่างไรก็ตามทาง นางทนงกร หรือ ภรรยา ได้ออกมาแย้งว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง โดยผู้เป็นภรรยาเล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ตนอยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 61 เมื่อวานนายจักรพงศ์เขาเมาพอเมาก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาเมา จะขาดสติแบบไม่ยั้งคิด วันนั้นถ้าช่วยไม่ทันก็คงตายไปแล้วที่บนสะพานเหมือนกัน เคยจะกระโดดมาแล้ว

ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ด้วยกัน ตรงหน้าบ้าน สักพักเขาก็เดินออกไป แล้วก็ไปโดดสะพานไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย นั่งคุยกับน้องอีกคนนึง เขากินเหล้าขาวตนก็กินเหมือนกัน แต่งงมากอยู่ดีๆ มีข่าวมาโจมตีตนทำไม เมื่อก่อนไม่มีตังค์สักบาทไม่มีที่ซุกหัวนอนตนไปดึงออกมา หมดเงินกับเขาไปมาก ทำพฤติกรรมแบบนี้ประจำ วันก่อนไปเมเจอร์ปากเกร็ด จะเดินให้รถชน

ตนก็ดึงแขนไว้ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตนตามจนเหนื่อย เวลาเมาชอบด่าคำหยาบมีปากมีเสียงทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เขาเคยทำร้ายร่างกายตนมาก่อน ตอนนี้ยังเจ็บหน้าอกอยู่ แต่พอสร่างเมากลายเป็นคนละคน มาบอกขอโทษแล้วจะไม่ทำอีก พอเมาก็เหมือนเดิม

ยืนยันว่าไม่เคยบังคับสามี ให้ไปเร่ร่อนขอทาน ซึ่งเป็นทางสามีที่อยากร้องเพลงเปิดหมวกเอง ตอนแรกเขาร้องไม่เป็นตนเลยสอนให้เขาร้องเพลง แล้วพาไปทำบัตรให้เป็นทางการ เป็นบัตรแสดงความสามารถ ที่บอกว่าตนไปนั่งรอสตางค์ ไม่เป็นความจริงที่ไปเพราะว่าต้องไปดูเขา

ถ้าปล่อยไปคนเดียว 4-5 วันเขาถึงจะกลับมา คนต้องไปตามหา บางครั้งก็เก็บเสื้อผ้าหนีไป หนีไปประมาณ 20 ครั้งหนสุดท้ายก็กลับมา บางครั้งหายไปนานตนต้องนั่งร้องไห้ ตามหาไม่เจอตนไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมเขาต้องเป็นข่าว ทำไมหากินแบบนี้ ตนเป็นโรคหัวใจ ทำงานไม่ได้บางครั้งก็หน้ามืดเวียนหัวมองอะไรไม่เห็น จนลูกสาวบอกว่าให้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ให้ทำอะไร

หนุ่มพิการต้องการเซ็นใบหย่า

ทั้งนี้หลังจากที่ นายจักรพงศ์ ได้กลับบ้าน ทางนายจักรพงศ์ก็เปิดใจว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ตอนนี้เหมือนหลุดพ้นแล้ว เพราะที่ผ่านมาตนถูกบังคับให้ร้องเพลง หาเงิน แล้วต้องเอาเงินไปดูแลลูกของภรรยาซึ่งโตแล้ว และตนถูกทุบตี บางครั้งก็ถูกจับแก้ผ้า ต่อหน้าคน

ตอนนี้สิ่งที่ต้องการที่สุดคือ อยากให้ภรรยามาเซ็นต์ใบหย่าให้ด้วย แม้ว่าตอนนี้ตนจะไม่เหลืออะไร ตนก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ มาดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียง ซึ่งสิ่งที่อยากได้มากที่สุดตอนนี้คือ เครื่องมือหากินชุดใหม่ ทั้งโทรศัพท์ และลำโพง เพื่อออกร้องเพลงเปิดหมวก