ทรีทเมนต์ผิวหน้า (Facial Treatment) ดีอย่างไร
ทรีทเมนต์ผิวหน้า คืออีกหนึ่งกรรมวิธีที่ปรนนิบัติผิว ให้สวยงาม เปล่งปลั่ง มีสุขภาพดี เป็นการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าจากปัญหาต่าง ๆ รวมถึงยังช่วยป้องกันผิวหน้า ลดการเกิดสิว เกิดริ้วรอย ทั้งสลายไขมันในส่วนที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้การใช้ บริการทรีทเมนต์ผิวหน้า (Facial Treatment) มีรูปแบบ และวิธีการทำที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่สภาพผิวหน้า และความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
ทรีทเมนต์หน้าคืออะไร
ทรีทเมนต์หน้า (Facial treatment) คือกระบวนการรักษา ดูแล และบำรุงผิวหน้าด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ ที่ใช้ความพิถีพิถัน โดยมีจุดประสงค์ในการทำหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีทเมนต์เพื่อลดรอยสิว การทำทรีทเมนต์เพื่อยกกระชับใบหน้า และการทำทรีทเมนต์เพื่อสลายไขมัน เป็นต้น ซึ่งแต่ละโปรแกรม อาจจะมีหลายขั้นตอน หรือขั้นตอนเดียว ตามแต่วิธีการของการรักษานั่นเอง
ทรีทเมนต์ ดีอย่างไร
ข้อดีของการทำทรีทเมนต์ คือ ใช้เวลาเพียงครั้งละ 30-40 นาที บางโปรแกรมไม่ต้องพักหน้าหลังทำ สามารถออกแดดและแต่งหน้าได้ทันที ทั้งยังเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่จำกัดช่วงอายุ ต่างกันแค่ความถี่ในการใช้บริการเท่านั้น
[lasso ref=”mordee-4″ id=”631435″ link_id=”157734″]
ทรีตเมนต์ผิวหน้าดีอย่างไร ช่วยอะไรได้บ้าง
การทำทรีทเมนต์หน้า แต่ละสถานที่ให้บริการ จะมีโปรแกรมทรีทเมนต์ และนวัตกรรมที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแต่ละที่ แต่ความสามารถโดยรวมของการทำทรีทเมนต์ จะให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้
- การยกกระชับใบหน้า หน้าเต่งตึง เรียววีมากขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย ป้องกันหน้าแก่ก่อนวัย และเด็กลงกว่าเดิม
- ผิวหน้ากระจ่างใส ไร้รอยดำ รอยไหม้ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
- รักษาสิว ป้องกันการเกิดสิว
- ลดรอยคล้ำใต้ตา บอกลาหมีแพนด้า ดูสดใส โหงวเฮ้งดี
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี
ทำทรีทเมนต์หน้ามีวิธีไหนบ้าง
แต่ละโปรแกรมจะมีกรรมวิธีที่แตกต่างกัน แต่วิธีเด่น ๆ ที่แต่ละสถานที่ให้บริการใช้กันบ่อย ๆ นั้น จะสามารถแบ่งออกได้ตามนี้
- โฟโน (Phono) เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตั้งแต่ 0.8 ถึง 1 MHz ในการรักษาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องลึก และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หรือมีริ้วรอยที่รอบดวงตา ใต้ตาบวม และรอยคล้ำใต้ตา อุปกรณ์นี้มีหน้าที่ในการผลักยาหรือวิตามินเข้าสู่ผิวหนังในปริมาณที่มากขึ้นและในอัตราที่เร็วกว่าครีมทั่วไป
- คลื่นแสง Ultimate Light (LED) การฉายแสงบนผิวหน้าเพื่อลดอาการแดง การอักเสบของผิว รวมถึงเป็นการฆ่าเชื้อสิว และลดการระคายเคือง
- คลื่นวิทยุ (Radiofrequency Therapy) คือการใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นสารในชั้นผิว
- Oxygen Plus / Jet Peel การผลัดเซลล์ผิวด้วยการเพิ่มออกซิเจน เป็นการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก
- การใช้ความเย็น (Cryotherapy) นวดผลักอาหารผิวลงใบหน้า ผลักลึกกว่าการทาครีม หรือการมาสก์หน้า ซึ่งวิธีนี้ จะช่วยลดอุณหภูมิของผิว ทำให้ผิวหน้าลดการอักเสบ ลดการแพ้ ผิวหน้าผ่อนคลาย ชุ่มชื้น ขาวใส รอยดำ และรอยแดงจางเร็ว
- Meso No Needle เป็นการผลักตัวยา และวิตามินโดยการใช้เทคนิค Electroporation ที่จะช่วยแก้ไขปัญหารอยต่าง ๆ บนผิวหน้า
ทรีตเมนต์หน้า ควรทำบ่อยแค่ไหน
ช่วงอายุระหว่าง 20 – 30 ปี แนะนำให้รับบริการทรีทเมนต์ผิวหน้าประมาณ เดือนละ 1-2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง ในทุก 2-3 เดือน เพราะคนในช่วงวัยนี้ ยังไม่มีปัญหาผิวมากเท่าไหร่
ช่วงอายุระหว่าง 30–40 ปี ในวัยนี้ เซลล์ผิวเริ่มมีการผลัดเปลี่ยนช้าลง หน้าเริ่มฟื้นฟูได้น้อยลง แนะนำให้รับบริการทรีทเมนต์ผิวหน้าลดเลือนริ้วรอย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ช่วงอายุระหว่าง 40-50 ปีขึ้นไป ให้รับบริการทรีทเมนต์ผิวหน้า สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน ทำต่อเนื่องทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพราะผิวขาดความสามารถในการฟื้นฟู กักเก็บ และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
ทรีทเมนต์ผิวหน้า มีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสถานที่ และโปรแกรมที่เราเลือกทำ อยู่ที่หลักร้อย ถึงหลักพัน ซึ่งถ้าได้ดีลดี ๆ ก็คุ้มสุดคุ้ม ทุกวันนี้การดูแลผิวหน้า ด้วยเพียงแค่การบำรุงผิว การล้างหน้า ทาครีมทั่วไป คงจะช่วยแก้ไขปัญหา และฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้ไม่มากพอ บริการทรีทเมนต์ผิวหน้า (Facial Treatment) จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการฟื้นฟู บำรุงผิวหน้านั่นเอง
?สำหรับโปรแกรม ทรีทเมนต์หน้าใส ที่น่าสนใจ สามารถเลือก และเปรียบเทียบราคาได้เลย ที่ >>Facial Treatment
?ค้นหาโปรแกรมดูแลผิวหน้าและร่างกายประเภทอื่น ๆ ที่น่าสนใจ คลิกได้เลย ที่ >> Mordee
?และถ้าหากคุณต้องการความช่วยเหลือ และมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการให้บริการ ติดต่อได้เลย ที่ >> @mordee