เตรียมอนุมัติ เงินสมทบ SMEs 2 แสนราย รมว.แรงงาน ย้ำส่งข้อมูลก่อน 15 ธ.ค.
รมว. แรงงาน ได้ประกาศเน้นย้ำให้นายจ้างธุรกิจ SMEs ทำการส่งข้อมูล เงินสมทบ ผ่านระบบ e-Service ก่อนวันที่ 15 ธ.ค. 64 เพื่อทำการรับเงินของโครงการระยะที่ 1
(13 ธ.ค. 2564) กระทรวงแรงงาน ย้ำเตือนสถานประกอบการ SMEs ที่ลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ระยะที่ 1 เร่งตรวจสอบการนำส่งข้อมูล เงินสมทบ ผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม หากพ้นกำหนด 15 ธ.ค. 64 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนงวดเดือนธันวาคม
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ตรวจสอบข้อมูลของนายจ้าง สถานประกอบการที่ร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs พบว่าสถานประกอบการที่ได้รับการอนุมัติร่วมโครงการในระยะที่ 1 จำนวน 223,834 ราย ที่จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 3,068,075 คน มีการนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมแล้ว 160,943 ราย และยังไม่นำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ถึง 62,891 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.07 ซึ่งสถานประกอบการที่ยังไม่ดำเนินการจำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 15 ธ.ค. 64 เพื่อสามารถรับเงินอุดหนุนในรอบเดือนธันวาคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ท่านห่วงใยและต้องการช่วยเหลือธุรกิจในกลุ่ม SMEs อย่างมาก ซึ่งโครงการฯนี้ก็เป็น 1 ในโครงการ ที่เป็นดำริท่าน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยพี่น้องสถานประกอบ SMEs หวังให้ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลครบตามสิทธิ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกิจการ เสริมสภาพคล่องธุรกิจ ให้กลับมาแข็งแรงประสบผลสำเร็จ ดั่งในอดีตที่ก่อนมีโรคโควิด ผมขอฝากถึงนายจ้าง สถานประกอบการให้เร่งตรวจสอบและดำเนินการนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ตามเงื่อนไขโครงการเพื่อประโยชน์ของท่าน”
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับนายจ้างภาคเอกชนที่ต้องการลงทะเบียนร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ระยะที่ 2 สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. – 20 ธ.ค. 64 ซึ่งการเปิดลงทะเบียนในรอบนี้จะเป็นการเปิดให้สถานประกอบการขนาดเล็ก – กลางที่สนใจได้ลงทะเบียนร่วมโครงการฯเป็นครั้งสุดท้าย
คุณสมบัติจะต้องเป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 สถานะ Active) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ต.ค. 64 และยังไม่ได้ลงทะเบียนร่วมโครงการในระยะแรก โดยจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในอัตรา 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน คือ เดือนธ.ค. 64 และเดือนม.ค. 65
โดยมีเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนเช่นเดียวกับนายจ้างที่ลงทะเบียนรอบแรก หลังจากสมัครร่วมโครงการแล้วจะต้องสมัครใช้งานระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม และนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือน เพื่อมีสิทธิรับเงินอุดหนุนในเดือนดังกล่าว
ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯผ่านระบบด้วยตนเอง สามารถนำเอกสารซึ่งประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี) และสำเนาหนังสือรับรองการจะทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา) โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้
หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้ติดต่อได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ