ข่าวข่าวการเมือง

พิธา เสียดายร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถูกคว่ำ ลั่นผลักดันเป็นนโยบายเลือกตั้ง

ก้าวไกล แถลงหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พิธา เสียดายร่างถูกคว่ำ แต่ไม่ถือว่าสูญเปล่าเสียทีเดียว พร้อมผลักดันเป็นนโยบายเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 17 พ.ย.64 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนในวาระที่ 1 ว่า เป็นอีกหนึ่งครั้งที่รัฐสภาปิดประตูความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่หลายฝ่ายเห็นว่าเป็นปัญหา ทั้งที่ตอนหาเสียงเมื่อปี 2562 แทบจะเป็นฉันทามติของพรรคการเมืองที่เห็นตรงกันว่าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ผลร่วมของคะแนนเสียงรับหลักการมีทั้งหมด 206 คะแนน (ส.ส. 203 คะแนน ส.ว. 3 คะแนน) ไม่รับหลักการ 473 คะแนน (ส.ส. 249 คะแนน ส.ว. 224 คะแนน) งดออกเสียง 6 เสียง (ส.ส. 3 คะแนน และส.ว. 3 คะแนน) จึงถือว่าที่ประชุมมมีมติไม่รับหลักการ

นายพิธา กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียดายโอกาสทองที่จะสามารถเอาความขัดแย้งของไทยกว่า 20 ปีที่ผ่านมา และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นปัจจุบัน เข้ามาสู่สภา สู่กรรมาธิการ (กมธ.) เสียดายที่ทั้ง ส.ว. และรัฐบาล ปิดประตูโอกาสพูดคุยกัน แทนที่จะประนีประนอมหาฉันทามติ หาทางออกให้กับการเมืองไทย สังคมไทย และประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม มี 2-3 เรื่องอยากสื่อสารไปยังประชาชน ทั้งพี่น้องกว่าแสนคนที่ลงชื่อครั้งนี้ คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน น่าจะเกือบ 16 ชั่วโมง ไม่ถือว่าสูญเปล่าเสียทีเดียว ถ้าในวันหนึ่งมองจากอนาคต ไม่ว่าจะดีขึ้น หรือแย่ลง คิดว่าเมื่อวานนี้เหมือนเป็นโอกาสทอง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Golden Moment” ทำให้มีวาระที่เราสามารถถกแถลงอย่างเป็นทางการ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งความคิดของผู้คนที่หลากหลายในสังคมรวมในสภา เป็นเรื่องที่น่ายินดี และไม่ว่าประชาชนส่วนใหญ่อาจมีกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยื่นเข้ามา และคงมีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก ที่ไม่มีการพูดจากัน แต่มีคนหมู่มากในสังคมไทยอยู่ตรงกลาง ไม่มีโอกาสรับฟังถึงปัญหาของการมีวุฒิสภาที่ไม่ได้มีที่มาฐานรากทางประชาธิปไตย ที่มา อำนาจ การตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญ การที่องค์กรอิสระ อิสระอย่างชัดเจนจากผู้คนบนท้องถนน จากสามัญชน จากคนธรรมดา รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีคำว่าโรคระบาด 3 คำ เอามาใช้ไม่อาจตอบโจทย์อนาคตชาติ อนาคตประเทศนี้เป็นอดีต ถ้าไม่สามารถนำสามัญสำนึกกลับการเมืองไทยได้” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า ประชาชนที่ได้ฟังถ้อยแถลงทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะพอพิพากษา หรือตัดสินใจได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ควรเป็นอนาคตของประเทศนี้

สุดท้ายนี้ พรรคก้าวไกล และตนในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมนำข้อเสนอให้คณะนโยบายของพรรคเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง เอาข้อเสนอของประชาชนฉบับนี้ เป็นนโยบายทางการเมืองในการหาเสียงต่อไป และหวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนที่เชื่อ และเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้ามา และผลักดันแก้ไขให้ความฝัน ความหวังของทุกคนเป็นจริงได้ในที่สุดสักวันหนึ่ง

ขณะเดียวกัน เมื่อถูกถามว่าจะมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องไปหารือกันก่อน เพราะเป็นฉันทามติของทุกพรรคการเมืองในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมาว่าจำเป็นต้องแก้ไข ซึ่งครั้งนี้เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.0 รอบที่สามแล้ว อะไรที่แปะตรงใจกลางของปัญหาจริงๆ มักจะไม่ผ่าน

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button