ข่าวข่าวภูมิภาค

เด็กต่างชาติ 7 ขวบ ตกบ่อน้ำพุร้อน แจ้งความ ตร.ไทยไม่เข้าใจจนเป็นข่าวดังที่รัสเซีย

เด็กต่างชาติ 7 ขวบ ตกบ่อน้ำพุร้อนที่ปาย ร่างพุพองกว่า 90% พอไปแจ้งความตำรวจไทยไม่รับทำคดีถึง 3 รอบ กระทั่งต่อมาเป็นข่าวดังที่สื่อรัสเซีย

เหตุการณ์นี้เริ่มจากวันที่ 13 ต.ค.64 เฟซบุ๊กแฟนเพจ อีซ้อขยี้ข่าว2 ออกมาโพสต์เกี่ยวกับกรณีประเทศไทยกลายเป็นข่าวดังเมื่อ สองแม่ลูกต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย ไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งที่อำเภอปาย แล้วลูกชายดันพลัดตกลงไปในบ่อน้ำพุ ร่างกายถูกน้ำลวกไป 90% แต่พอเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความขอให้ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวว่าควรมีป้ายติดเตือนหรือควรมีที่กั้นหากเป็นบ่อใหญ่และอันตราย แต่ฝั่งผู้ปกครองของเด็กต่างชาติแจ้งไปถึง 3 รอบกับตำรวจไทย แต่ปรากฏไม่รับแจ้งเหตุ จนตัวแม่ต้องไปร้องสื่อรัสเซียให้ช่วยจนกระทั่งต่อมาเรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังในแดนหมีขาว

ขณะที่ความคืบหน้า ล่าสุด วันที่ 14 ต.ค.64 รายงานจากสำนักข่าวไทย อสมท. ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 พร้อมตัวแทนการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้าเยี่ยมเด็กคนดังกล่าวที่ รพ.เชียงใหม่ราม พบว่า อาการของเด็กพ้นขีดอันตรายแล้ว หลังผ่าตัดไป 3 รอบ โดยพ่อแม่เด็กกล่าวว่า เดินทางจากพัทยาไปที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ก่อนจะไปที่ อ.ปาย วันที่ 4 ตุลาคม เมื่อถึงบ่อน้ำพุร้อนก็ถ่ายรูปเก็บไว้ ยืนยันว่า จุดนั้นไม่มีป้ายเตือนหรือกั้นเขตพื้นที่ให้นักท่องเที่ยว ลูกชายจึงพลัดตกลงไป โดยตกลงไปแค่ 5 วินาที ลูกถูกลวกเกือบทั้งตัว แม่ของเด็กมองว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นหากมีเครื่องกั้นหรือป้ายเตือน

หลังเกิดเหตุพ่อกับแม่เด็กพยายามแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ แต่อาจเป็นเพราะสื่อสารกันไม่เข้าใจ ตำรวจจึงไม่รับแจ้งความ ดังนั้น จึงขอความช่วยเหลือไปยังสื่อรัสเซียแทน อีกปัญหาหนึ่งที่เจอในตอนนี้คือ ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงแตะไปที่หลัก 2 ล้านบาทแล้ว

ขณะที่ในส่วนของบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดเหตุ ตำรวจท่องเที่ยวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าคือ บ่อน้ำพุร้อนเหมืองแร่ ริมถนนในตำบลเมืองแปง ที่อำเภอปาย เป็นบ่อน้ำพุร้อนของชุมชนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ริมถนนมีราวเหล็กกั้นสูง 80 เซนติเมตร ยาวเกือบ 40 เมตร มีป้ายบอกบ่อต้มไข่ อุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียส และป้ายเตือนพื้นที่อันตรายห้ามลงเล่นชัดเจน

แต่ในฐานะเจ้าบ้านกำลังหาทางช่วยเหลือ เบื้องต้นจะประสานย้ายจากโรงพยาบาลเอกชนมายังโรงพยาบาลรัฐซึ่งค่าใช้จ่ายถูกกว่า รวมทั้งพิจารณากองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของตำรวจท่องเที่ยวเพื่อดูแลตามหลักมนุษยธรรมและน้ำใจของคนไทย

เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สนใจทำประกันอุบัติเหตุกับ Tadoo คลิกที่นี่

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button