ข่าวข่าวการเมือง

‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ ร่ายยาว หลังเจอมรสุมเว็บล่ม หนุน Hate Speech

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ชี้แจงหลังเว็บล่มนาน 6-7 ชั่วโมง และหลังถูกกล่าวว่าเว็บเฟซบุ๊กมุ่งเน้นกำไรด้วยการสนับสนุน Hate Speech

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่เฟซบุ๊กและเว็บไซต์ในเครือล่มจนทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก และกรณีที่ แฟรนซิส เฮาเกน อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ออกมากล่าวหาว่าเฟซบุ๊ก ทำกำไรจากอัลกอริทึมที่เพิ่มการมองเห็นเนื้อหาสร้างความเกลียดชังให้กับผู้ใช้

โดย ซัคเคอร์เบิร์ก ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมระบุว่าเหตุเว็บล่มนานเจ็ดชั่วโมงเป็นเหตุขัดข้องที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และตนได้ใช้เวลานานกว่า 24 ชั่วโมงเพื่อพูดคุยถึงวิธีการเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบ

ซึ่งซีอีโอเฟซบุ๊กยังได้ตอกย้ำว่าการขัดข้องครั้งนี้ไม่ใช่ประเด็นของการสูญรายได้หรือการที่ผู้ใช้บริการเปลี่ยนไปใช้โซเชี่ยลมีเดียเจ้าอื่น แต่เป็นการตอกย้ำว่ามีผู้ใช้บริการจำนวนมากที่เฟซบุ๊กเพื่อสื่อสารกับคนรัก เปิดกิจการ และสนับสนุนชุมชนของตน

ในส่วนของประเด็นข้อกล่าวหาของ เฮาเกน นั้น ซัคเคอร์เบิร์กยืนยันว่าทางบริษัทให้ความสำคัญกับปัญหาด้านความปลอดภัย สุขภาพทั้งกายและสุขภาพจิต พร้อมโต้แย้งว่าข้อกล่าวหาของนางเฮาเกนหลายๆประเด็นไม่มีเหตุผล

ซัคเคอร์เบิร์ก ชี้แจง ในประเด็น เฟซบุ๊กทำกำไรได้มากขึ้นจากการส่งเสริมเนื้อหายั่วยุให้เกิดความเกลียดชังนั้นเป็นที่เรื่องไร้เหตุผลและเป็นการสะท้อนตัวตนของเฟซบุ๊กแบบผิด ๆ โดยรายได้หลักของเฟซบุ๊กคือโฆษณา ซึ่งผู้ซื้อโฆษณาก็มักจะยืนยันเสมอว่าพวกเขาไม่อยากให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนอยู่ข้างข้อความชนิดดังกล่าว

ส่วนข้อกล่าวหาที่ระบุว่า อินสตาแกรม ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงวัยรุ่นนั้น ซักเคอร์เบิร์กอ้างว่าผู้หญิงวัยรุ่นหลายคนสะท้อนว่า แอปฯดังกล่าวทำให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ง่ายขึ้น และที่ผ่านมาทางบริษัทเน้นย้ำถึงความสำคัญของความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี และสุขภาพจิตของผู้ใช้ ทั้งยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของเยาวชน

“ผมใช้เวลาอย่างมากไปกับการสะท้อนว่าประสบการณ์ออนไลน์แบบไหนที่ผมอยากให้ลูกของผมและคนอื่น ๆ มี และมันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมมาก ๆ ที่ทุกอย่างที่เราสร้างจะต้องปลอดภัยและดีสำหรับเด็ก” ซักเคอร์เบิร์กระบุและเน้นย้ำว่า “มันเป็นความจริงที่เด็กใช้เทคโนโลยี”

ซึ่งเขายังได้ตัดพ้อว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดว่าความพยายามของพวกเขาถูกตีแผ่แบบผิดๆ แต่เขาเชื่อว่าในระยะยาวทางบริษทจะสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนได้ตราบใดที่ทางบริษัทยึดมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง และมันจะเป็นสิ่งที่ดีกับชุมชนและบริษัทมากกกว่า

โดยซีอีโอเฟซบุ๊กได้ปิดท้ายด้วยการขอบคุณผู้คนนับพันล้านคนที่รักในผลิตภัณฑ์ของพวกเขา และเขารู้สึกภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำ เพื่อทำให้เฟซบุ๊กเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ดีที่สุดในโลก

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button