ข่าวภูมิภาค

แม่เด็กถูกซีม่าราดตัว แฉผอ.ผ่านโหนกระแส-กรรชัยซัด ชีวิตเด็กสำคัญกว่า สว.

แม่เด็กถูกซีม่าราดตัว ออกรายการโหนกระแส และแฉหมดเปลือกขณะ ผอ.โรงเรียนอยู่ในสายด้วย ด้านหนุ่ม กรรชัย จวก ชีวิตเด็กสำคัญกว่าสว. และหน้าตารร.

เด็กถูกซีม่าราดตัว – รายการโหนกระแส EP.910 “แม่เด็กที่ถูกซีม่าราดตัว ลั่น! เอาเรื่องทุกคนที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด” ออกอากาศวันที่ 25 มี.ค.64 ดำเนินรายการโดย กรรชัย กำเนิดพลอย

Advertisements

แขกรับเชิญในวันนี้คือ จินตนาพร วาชะอุ้ม แม่น้องภูผา เด็กที่ถูกซีม่าราดตัว ร่วมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และรศ.ดร.วีระชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม ม.เกษตรศาสตร์

สืบเนื่องจาก น้องภูผา เด็กชายชั้น ป.2 วัย 9 ขวบ โดนรุ่นพี่ 2 คน เอาซีม่าราดทั้งตัว จนเกิดเป็นแผลพุพองทั่วตัว อาการสาหัส โดยที่ทางโรงเรียนไม่ยอมช่วยเหลือ ก่อนที่ผู้เป็นแม่ต้องนำตัวลูกชายส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง และเรียกร้องความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ซึ่งแม่น้องภูผา เปิดเผยในรายการว่า ตนเองมีลูก 4 คน น้องภูผาคือคนสุดท้อง และเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำราษฎร์ประชานุเคราะห์ ที่ 37 จังหวัดกระบี่ โดยทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับภูผา ในวันจันทร์ เนื่องจากลูกสาวชั้น ป.5 โรงเรียนเดียวกันได้ยืมโทรศัพท์ช่าง เพื่อโทรมาขอความช่วยเหลือ

หแม่และพ่อจึงได้รีบไปที่โรงเรียนทันที เมื่อไปถึง รปภ. ของโรงเรียนก็อนุญาตให้เข้าไป โดยไม่พบคุณครูเลย อ้างว่าประชุมอยู่ แต่ไม่รู้จริงเท็จประการใด หลังจากนั้นลูกสาวจึงได้ประคองตัวน้องมา เนื่องจากไม่สามารถทรงตัวได้ แม่เลยอุ้มมาถึงการไฟฟ้า และได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าที่ให้การรักษาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบพาไปส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้น ทีมแพทย์ได้ตรวจร่างกาย และพบว่าามีแผลทั้งร่างกาย เน้นหนักที่อวัยวะเพศ เป็นรอยเขียว ถลอกปอกเปิด จึงให้แอดมิตที่โรงพยาบาล ซึ่งตัวของน้องภูผาเล่าว่า ตนเองไม่ได้ออกไปวิ่ง จึงโดนรุ่นพี่ชั้น ป.5 และ ม.4 ทำร้ายโดยการกระทืบที่หน้าอก หัวและตัวกระเด็นไปติดกับตู้เหล็กใส่เสื้อผ้า ก่อนที่จะโดนซีม่าที่รุ่นพี่นำมาจากสถานพยาบาลราดตัว 6 ขวด (คนที่รับสารภาพบอกว่า 9 ขวด)

Advertisements

หลังจากนั้น ทางรายการได้เปิดคลิปคุณสมยศ แก้วใหญ่ ครูผู้ดูแลหอพัก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าหอพักที่น้องภูผาอยู่เป็นหอพักที่มีเด็กชั้น ป.1 – ป.6 อยู่รวมกัน ทั้งหมด 60 คนโดยมีนักเรียนชั้น ม.1 – ม.6 อีก 10 คนทำหน้าที่พี่เลี้ยง จากการพูดคุยกับพี่เลี้ยงที่เป็นคนทาซีม่าให้ภูผา ทราบว่าทาซีม่าครั้งแรก 18 มี.ค. เพราะน้องเป็นหิด จนวันที่ 20 เห็นอาการดีขึ้นจึงทายาให้อีกครั้ง วันที่ 22 เห็นอาการไม่ดี จึงประสานให้พาตัวน้องไปส่งโรงพยาบาล แต่คุณแม่มารับตัวน้องไปก่อน ซึ่งแม่น้องภูผาได้บอกว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะวันจันทร์แม่นำส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง ครูสมยศไม่ได้มา

ต่อมาได้มีศักดิ์ชัย สุวรรณราช ผอ. โรงเรียนที่เกิดเหตุ เข้ามาอยู่ในสายด้วย พร้อมกับให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ไม่ได้ส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันเกิดเหตุ เพราะทางคุณครูเห็นว่าเป็นไม่มาก ประกอบกับวันนั้น ทางรร.ประชุมเพื่อรับคณะ สว. และโรงเรียนเป็นสถานที่สอบ ปกติแล้วใครเจ็บไข้ไม่สบาย จะส่งทันที จุดนี้ก็ยอมรับว่าช้าเกินไป

ส่วนเรื่องการทาซีม่า โรงเรียนก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีความผิด ก็ลงโทษตามระเบียบ มาตรการเริ่มต้น โรงเรียนพร้อมรับผิดชอบในส่วนที่เกิดขึ้น และคิดว่าส่วนนี้ต้องมีการเข้มข้นในการดูแล

หลังจากนั้น แม่ก็ถาม ผอ. ว่ากรณีปริมาณซีม่าทาถึง 9 ขวด ผอ. เคยโดนมีดบาดแล้วทาด้วยซีม่าหรือไม่ว่ามันแสบขนาดไหน 9 ขวด น้องอายุ 9 ปี ต้องทาถึง 9 ขวด เลยหรือ ก่อนที่ ผอ. จะตอบกลับว่า จากข้อมูลที่สอบสวน ปรากฎว่านักเรียนเป็นหิดน 18 คน ทีนี้ก็ใช้วิธีเอามาทารักษา 18 คน ไม่ใช่น้องคนเดียว ใช้วันละ 9 ขวด ทาเด็ก 18 คน ไม่ได้ทาภูผาคนเดียว ด้านแม่จึงสวนไปว่านี่เป็นข้ออ้างทางโรงเรียน ภูผามีสติสัมปชัญญะอยู่ครบ ยืนยันว่าราดแน่นอน

ทนายรณณรงค์ จึงขอโอกาสถามบ้างว่า ดูแลซีม่ายังไง เด็กสามารถเดินไปเบิกได้เองหรือต้องผ่านคุณครู ผอ. ตอบว่า ต้องผ่านคุณครูครับ ยาประจำบ้านให้คุณครูที่หอเขาดูแล เขาต้องเบิกจากพยาบาลโรงเรียน ทนายรณณรงค์ ถามต่อว่ายาตัวนี้เด็กสามารถเบิกไปใว้ตรงไหนเองก็ได้โดยครูไม่รู้เลยหรือ ซึ่ง ผอ. ก็ยอมรับว่าส่วนนี้ก็เป็นข้อบกพร่องของทางโรงเรียน

แม่น้องภูผาจึงถาม ผอ.ต่ออีกว่าทำไมพยายามปกป้องโรงเรียน เลือกให้การต้อนรับ สว. ก่อนชีวิตเด็ก ไม่นำเด็กส่งโรงพยาบาล แล้วปล่อยปละละเลยจนเด็กมีบาดแผลดังที่ปรากฎในภาพ ซึ่ง ผอ. ก็ตอบประเด็นนี้ว่าถ้าทราบเรื่องก่อน ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเด็ก แต่ติดประชุมและเพิ่งทราบเรื่องเหมือนกัน เป็นข้อบกพร่องของครูเหมือนกันที่ไม่ได้รายงานตอนนั้น

ทนายรณณรงค์ ถามผอ.ว่า จริงหรือไม่ที่ห้ามแม่ออกรายการ ก่อนที่ ผอ. จะยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเป็นสิทธิของแม่อยู่แล้ว ก่อนที่แม่จะสวนกลับไปว่าเมื่อวานท่านให้รอง ผอ. นำเงินจำนวนหนึ่งไปให้ที่โรงพยาบาล แล้วบอกว่าไม่ให้มาออกรายการ ขณะที่เมื่อเช้าก็โทรมาขอร้องไม่ให้ออกรายการ ทางแม่อัดเสียงไว้แล้ว โดนที่พนักงานผู้นำตัวมาออกรายการเป็นพยานได้

ผอ.จึงแก้ตัวว่าแค่เป็นห่วงว่าแม่อยู่ไหน ทำไมไม่อยู่โรงพยาบาล พร้อมยืนยันจะดูแลทุกวัน แม่จึงตอบกลับไปว่า คนละประเด็นกันเลย ผอ.มาดูแลหลังจากที่ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวนี้ต่อสื่อมวลชนทุกแขนง ผอ.ถึงนำทีมข้าราชการมา ถ้าข่าวนี้ไม่แพร่ออกไป ผอ.ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะมา แม้กระทั่งคืนที่่ท่านมา ผอ.ยังไม่ขึ้นมาที่เตียงเลย ไปอยู่หน้าโรงพยาบาล แต่ส่งตัวแทนไป

หลังจากนั้น หนุ่ม กรรชัย จึงให้ความเห็นบ้างว่า ตนเองคิดว่าชีวิตเด็กสำคัญกว่า สว. อีกเรื่องอยากให้ห่วงเด็กมากกว่าห่วงหน้าของโรงเรียน เพราะตอนนี้มีคนพูดถึงเยอะมาก และตอนนี้สพฐ.เดินทางมาถึงช่อง 3 แล้ว น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ทางแม่ยืนยันว่าไม่คุยกับหน่วยงานอื่นก่อน ขอปรึกษาฝ่ายกฎหมายอย่างเดียว

ทนายรณณรงค์ ได้ถามปิดท้ายด้วยความเป็นห่วงเด็กคนอื่น ๆ ว่า ถ้ามีเด็กทำอีก ผอ. จะรู้เรื่องหรือไม่ แล้วในอดีตมีเด็กคนอื่นทำโทษด้วยการเอาซีม่ามาทำแบบนี้หรือไม่ เพราะเคสนี้ ผอ. ยังไม่รู้เรื่องเลย ก่อนที่ ผอ. จะตอบกลับว่า ไม่ได้หมายความว่าไม่ดูแลเด็ก ทุกครั้งที่เด็กเจ็บป่วย ก็ส่งโรงพยาบาลทันที

Jake KN.

นักคิดนักเขียน พร้อมเสิร์ฟทุกข่าวในสังคม การเมือง อาชญากรรม เทคโนโลยี ต่างประเทศ บันเทิง เศรษฐกิจ โควิด-19 กระแสไวรัลในโลกโซเชียล ทุกเหตุการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button