ข่าวข่าวการเมือง

สุเทพ เดินทางถึงศาล เตรียมฟังคำพิพากษา คดีกบฏ

สุเทพ เทือกสุบรรณ เดินทางเตรียมรับฟังคำพิพากาษ คดีกบฏ น้อมรับคำตัดสิน ยืนยัน กปปส. ต่อสู้เพื่อบ้านเมือง

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส ได้เดินทางถึงศาลอาญา เพื่อเตรียมฟังคำพิพากษา ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ โดยคดีนี้อัยการโจทก์ยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2561 ซึ่งนอกจากนาย สุเทพ แล้วยังมีกลุ่ม กปปส. โดยสั่งฟ้องรวม 39 คน

โดยบรรยากาศในวันนี้ กลุ่มจำเลยทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า และมีประชาชนมารอมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ ขณะที่กำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.พหลโยธินดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ

สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.56 – 1 พ.ค. 57 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคล ชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือ กลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพเป็นเลขาธิการ โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร

กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง

รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรี และ ครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส. จากนั้น กปปส.จะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง

รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สตช. บช.น. สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่ง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

นอกจากนี้ช่วงระหว่างวันที่ 13 ม.ค. – 2 มี.ค.57 พวกจำเลยได้บังอาจปิดกรุงเทพมหานคร (Bangkok Shutdown) ด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพมหานคร รวม 7 จุด ปิดกั้นเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกีดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง การกระทำของพวกจำเลยล้วนไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหารตามรัฐธรรมนูญ เหตุเกิดในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน

ซึ่งนายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์ว่า จำเลยทั้ง 39 คน ได้พูดคุยกัน และทำใจไว้แล้วไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร พวกเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง และวันนี้พวกเรามาครบทั้ง 39 คน และการต่อสู้ของพวกเราที่ผ่านมามี 24 คนที่เสียชีวิต 900 กว่าคนบาดเจ็บ และมีผู้เสียอวัยวะ บางคนก็ถูกลงโทษจำคุก ดังนั้นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

แต่การต่อสู้ของพวกเราเป็นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นการกระทำที่รับผิดชอบ ไม่ได้ต้องการฝ่าฝืนกฎหมาย เราเคารพกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม และน่าชื่นใจมากทุกกรณีทุกจังหวัดที่พวกเราถูกดำเนินคดี ไม่มีใครหลบหนีคดี

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button