ข่าว

18 ส.ค. บัตรคนจนสิงหาคม 2563 เช็กเงินเข้า ค่าน้ำ ค่าไฟ

บัตรคนจน สิงหาคม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนสิงหาคม 2563 เช็กเงินเข้า 18 สิงหาคม 2563

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐสิงหาคม 63 – ยังคงเป็นโครงการที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปี 2563 สำหรับ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือบัตรคนจน โดยเดือนสิงหาคม 2563 กำหนดวันเงินอุดหนุนเข้าต่าง ๆ ดังนี้

  • เงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จ่ายผ่านบัตรกับร้านธงฟ้า เงินได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาท/ปี ได้ 300 บาท สูงกว่านั้นได้ 200 บาท : เงินเข้าวันที่ 1 สิงหาคม
  • เงินจ่ายค่าโดยสารสาธารณะ รถเมล รถไฟฟ้า 500 บาท รถ บขส. 500 บาท รถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน : เงินเข้าวันที่ 1 สิงหาคม
  • เงินผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ที่มีบัตรสวัสดิหารแห่งรัฐ 500 บาทต่อคน : เงินเข้าวันที่ 15 สิงหาคม
  • เงินคืน VAT 5% : เงินเข้าวันที่ 15 สิงหาคม
  • ถ้าใช้น้ำไม่เกินเกณฑ์ รับเงินอุดหนุนค่าน้ำไปเลย 100 บาทต่อครัวเรือน : เงินเข้าวันที่ 18 สิงหาคม (เฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น)
  • ถ้าใช้ไฟไม่เกินเกณฑ์ รับเงินอุดหนุนค่าไฟไปเลย 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน : เงินเข้าวันที่ 18 สิงหาคม (เฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น)

>ลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า (ไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน) สำหรับผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (คลิก)< (ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียน 14,396 ราย)

Advertisements
  • ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังได้รับเงินคืนจาก VAT อีกด้วย ส่วนวิธีรับเงินคืนคือ ใช้จ่ายซื้อของผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับร้านธงฟ้าหรือร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ที่มีการเชื่อมต่อระบบ POS

โดยเงื่อนไขคือผู้ถือบัตรคนจนจะได้เงินภาษีคืนสูงสุดไม่เกิน 500 บาท ทั้งนี้ เงินคืนภาษีทั้ง 2 ส่วน เมื่อคิดเป็นจำนวนเงินรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500 บาท แบ่งการคืนเป็น 2 ส่วนคือ

1. จำนวน 5% คืนเงินให้ผู้ถือบัตร โดยโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) เงินส่วนนี้สามารถกดออกมาใช้หรือรูดซื้อของได้

2. จำนวน 2% แบ่ง 1% เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม อีก 1% เก็บเข้าบัญชีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ของผู้ถือบัตร แต่ถ้าหากไม่มีบัญชีการออมก็จะมีการเปิดบัญชีเพื่อสะสมไว้

กำหนดการคืนเงินคือ ผู้ถือบัตรจะได้รับเงินคืน วันที่ 15 ของเดือนถัดไป (โดยกำหนดเวลาของโครงการคืนเงินนี้อยู่ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 30 กันยายน 2563)

พูดง่าย ๆ คือ ท่านจะได้รับเงินคืนในส่วนที่นำกลับใช้สอยได้คือ 5% ของการเงินที่ซื้อของไป เช่น จ่าย 100 บาท ได้เงินคืนเดือนถัดไป 5 บาท 200 บาท ได้ 10 บาท ถ้าหากอยากได้สูงสุด 500 บาท ต้องใช้จ่าย ประมาณ 7 พันบาท

Advertisements

**แต่ข้อควรระวังคือ หากซื้อของที่ไม่ต้องเสีย VAT เช่น ผักสด ผลไม้ เนื้อ จะไม่ได้รับเงินคืนนะจ๊ะ

 

Aindravudh

นักเล่าเรื่อง จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ ผู้สนใจประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ผนวกกับการเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเขียนงานวรรณกรรม ก่อนผันตัวมาเจาะประเด็นข่าวทางสังคม ออนไลน์ ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button