บรูโน่ ซัดโทษนำชัย ! ไฮไลท์ แมนยู 1-0 โคเปนเฮเก้น, ผีเหนื่อยต่อเวลา ก่อนเข้ารอบรองฯ ยูโรป้าลีก
ศึก ยูโรป้าลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย แข่งขันกันที่ประเทศเยอรมัน ไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ เกมนี้เป็นการพบกันระหว่าง แมนยู ทีมดังจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบกับยอดทีมจากแดนโคนมอย่าง เอฟซี โคเปนเฮเก้น
เกมนัดนี่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ส่งชุดที่ดีที่สุดลงสนาม หลังจากโรเตชั่นหลายตำแหน่งจากเกมก่อน นำมาโดย ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมีแนวรุกเป็น เมสัน กรีนวู้ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ขณะที่ฟากของ สตาเล่ โซลบัคเค่น ของ โคเปนเฮเก้น ฝากความหวังล่าตาข่ายไว้ที่ โยนาส วินด์ และ ราสมุส ฟัลค์
เริ่มเกมมา นาทีที่ 10 กรีนวู้ด ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจจิ้มบอลด้วยเท้าขวา แต่ทว่าโดนไม่เต็ม บอลไปเข้ามือ คาร์ล-โยฮัน ยอห์นส์สัน รับเอาไว้ได้
VAR !!! นาที 20 มาร์กซิยาล โดนผลักและล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกที่จุดโทษ ก่อนจะทำการเช็ก VAR อีกครั้งและพบว่ามีจังหวะล้ำหน้าเกิดขึ้นก่อน จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นาที 25 นาทีต่อมา บิสซาก้า ไหลบอลให้ เมสัน กรีนวู้ด อัดด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งไปแฉลบ อันเดรียส บีเยลลันด์ ออกหลังไปได้เป็นเพียงลูกเตะมุม
ท้ายครึ่งแรก แมนยู น่าขึ้นนำสุด ๆ จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ซัดเต็มข้อเน้นๆนอกกรอบ บอลพุ่งอย่างได้ลุ้นแต่ไปตรงตัว ยอห์นส์สัน ที่รับบอลกระฉอก ก่อนแผงหลังจะช่วยกันเคลียร์ออกไปได้
VAR !!! ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก แมนยู ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายโดย กรีนวู้ด แต่เมื่อผู้ตัดสินย้อนกลับไปเช็ก VAR ก็พบว่า กรีนวู้ด นั้นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ก่อนที่จะยิงลูกนี้เข้าไป ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังมานาที 55 ปีศาจแดง ต่อบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายกันอย่างสวยงาม ก่อนจะจบด้วยการยิงด้วยเท้าซ้ายของ เฟร็ด แต่บดมากเกินไป เข้ามือของ ยอห์นส์สัน รับไว้ได้
ต่อมานาที 61 โคเปนเฮเก้น ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ ไบรอัน โอเบียโด้ ไหลเข้ากลางให้ โยนาส วินด์ ยิงด้วยซ้าย แต่เป็น โรเมโร่ ที่ยังเซฟเอาไว้ได้
นาที 63 แมนยู น่าได้ประตูสุด ๆ เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ลองตั้งป้อมส่องไกลจากนอกกรอบดูบ้าง บอลพุ่งแรกและหนีมือนายด่าน ยอห์นส์สัน ไปแล้ว แต่กลับไปชนเสาและเด้งออกมาอย่างจัง ยังไม่ได้ประตู
5 นาทีต่อมา บรูโน่ ได้โอกาสสับไกด้วยขวาอีกครั้ง บอลพุ่งแรงและติดไซด์ก้อย แต่คราวนี้นายด่านยังพยายามทุบออกมาได้
นาที 84 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล พาบอลตะลุยไปจนถึงกรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจปั่นด้วยขวาตามสไตล์ถนัดทันที บอลกำลังโค้งเข้าสามเหลี่ยม แต่เป็น คาร์ล-โยฮัน ยอห์นส์สัน ที่ปฏิเสธลูกนี้เอาไว้อีกครั้ง
หมดเวลา 90 นาที เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 ต้องแข่งขันกันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที เนื่องจากเป็นการแข่งขันแบบนัดเดียว ไม่มีการเหย้า-เยือน
มาถึงนาที 92 มาร์กซิยาล ลากบอลลุยมาจนถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะพยายามหาจังหวะยิงมุมแคบด้วยเท้าซ้าย แต่ไปติดเซฟนายประตู
GOAL !!! แมนยู มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ แรชฟอร์ด เชื่อมบอลให้ มาต้า และป้ายต่อให้ มาร์กซิยาล ที่กำลังจะยิงแต่โดน บีเยลลันด์ สกัดล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกโทษ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะเลือกสังหารไปมุมซ้ายล่างของตัวเองเข้าไปเป็น 1-0
นาที 98 หลังจากนำแล้วเล่นง่ายขึ้นเยอะ จนเกือบได้ลูกที่สองจากจังหวะที่ มาร์กซิยาล โซโล่เดี่ยวหนีแนวรับ โคเปนเฮเก้น ก่อนจะดีดต่อให้ มาต้า ได้ซัดด้วยขวา แต่ติดบล็อคออกหลังไป
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย โคเปนเฮเก้น เดินหน้าบุกเต็มสูบ หวังได้ประตูตีเสมอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ก่อนจะจบเกมไปด้วยสกอร์ 1-0 ของ แมนยู เข้าสู่รอบรองฯ ได้สำเร็จ โดยจะพบกับคู่ระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน หรือ เซบีย่า ที่จะเตะกันคืนนี้
ไฮไลท์ แมนยู 1-0 โคเปนเฮเก้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนยู (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเมโร่ – อารอน วาน-บิสซาก้า, เอริก ไบยี่ (วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ น.71), แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ – ปอล ป็อกบา, เฟร็ด (เนมานย่า มาติช น.70) – เมสัน กรีนวู้ด (ฆวน มาต้า น.91), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด (เจสซี่ ลินการ์ด น.113) – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น.120+1)
โคเปนเฮเกน (4-3-3) : คาร์ล-โยฮัน ยอห์นส์สัน – กีเยร์โม่ วาเรล่า (คาร์โล บาร์โตเล็ค น.105), อันเดรียส บีเยลลันด์, วิคเตอร์ เนลส์สัน, นิโคลาย โบเลเซ่น (ปิแอร์ เบงก์สสัน น.15) – เป๊ป บรีล (ไบรอัน โอเบียโด้ น.58), เยนส์ สเตจ (โรเบิร์ต มูดราซิย่า น.105), เซก้า – โมฮาเหม็ด ดารามี (มิคเคล เคาฟ์มันน์ น.57) ,โยนาส วินด์, ราสมุส ฟัลค์ (วิลเลี่ยม วิค น.111)