สรุปผล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 37 พร้อมไฮไลท์ทุกคู่ – ลิเวอร์พูล ชูถ้วยแชมป์แบบเท่ๆ
สรุปผล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 37 พร้อมไฮไลท์ทุกคู่ และตารางคะแนนล่าสุด – ลิเวอร์พูล ชูถ้วยแล้ว
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 นัดที่ 37(คลิกที่ผลการแข่งขันเพื่อชมไฮไลท์) |
นอริช ซิตี้ 0-2 เบิร์นลีย์ |
บอร์นมัธ 0-2 เซาแธมป์ตัน |
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-0 เลสเตอร์ ซิตี้ |
เชฟฯ ยูไนเต็ด 0-1 เอฟเวอร์ตัน |
ไบรท์ตัน 0-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด |
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส 2-0 คริสตัล พาเลซ |
วัตฟอร์ด 0-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
แอสตัน วิลล่า 1-0 อาร์เซนอล |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด |
ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี |
สรุปเหตุการณ์น่าสนใจประจำแมตช์เดย์ที่ 35
- “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ฟอร์มร้อนแรงไล่จิก เลสเตอร์ ซิตี้ ถึง 3 ลูก ทำให้ “จิ้งจอกสยาม” ต้องไปลุ้นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในนัดสุดท้าย พร้อมแบกความกดดันไว้เต็มๆ
- เชฟฯ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสกดดันพื้นที่ ยูโรป้าลีก ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะพวกเขาพ่ายให้กับ เอฟเวอร์ตัน ไปด้วยสกอร์ 0-1
- ขณะที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส แม้จะหมดโอกาสคว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาขอเล่นเพื่อลุย ยูโรป้า เช่นเดียวกัน ชัยชนะเหนือ พาเลซ ช่วยการันตีตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- “ไอ้ปืนใหญ่” พลาดท่าพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า 0-1 ในเกมที่พวกเขาหาโอกาสยิงไม่ได้เลย จู่ๆ ผลงานการเล่นระดับสุดยอด กลับต้องมาพ่ายให้ทีมท้ายตาราง เท่ากับพวกเขาทิ้งพื้นที่ ยูโรป้าลีก ไปแล้ว ขณะที่ วิลล่า โอกาสหนีตกชั้นมีสูงขึ้นเรื่อยๆ
- คู่รองสุดท้ายประจำนัดที่ 37 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างความได้เปรียบให้ตัวเองไม่ได้ เพราะทำได้แค่เสมอกับ “ขุนค้อน” ด้วยสกอร์ 1-1 เหลือเกมนัดสุดท้ายกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่วัดกันไปเลยว่าใครจะอยู่ใครจะไป (ถ้าพวกเขาชนะ เลสเตอร์ ได้ก็การันตี ยูซีแอล แน่นอน)
- คู่สุดท้าย “เครื่องจักรสีแดง” ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มถล่ม เชลซี 5-3 พร้อมชูถ้วยแชมป์ไปครองแบบมีสไตล์สุดๆ ส่วน เชลซี ต้องไปลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปในนัดสุดท้ายเหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้
ไฮไลท์ประจำสัปดาห์ – ลิเวอร์พูล พบ เชลซี
รอมานาน! ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี : พรีเมียร์ลีก – พร้อมบรรยากาศฉลองแชมป์รอบ 30 ปี
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
- ลิเวอร์พูล: (GK) อลิสซอน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจค์, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, เกอิต้า, มาเน่, ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
- เชลซี: (GK) เกป้า, เจมส์, อัซปิลิกวยต้า, ซูม่า, รูดิเกอร์, อลอนโซ่, จอร์จินโญ่, โควาซิช, วิลเลี่ยน, เมาท์ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์
นาทีที่ 8 รีซ เจมส์ ได้ตั้งป้อมโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ เมสัน เมาท์ ขึ้นโขกเหน่งๆ ข้ามคานหน้าตาเฉย
นาทีที่ 16 เจมส์ คนเดิมพาบอลมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษเยื้องขวา ลองซัดบอลเลี้ยวหนีประตูนิดเดียว
GOAL! นาทีที่ 23 “สิงห์บลูส์” พยายามจะแกะบอลออกจากแดนตัวเอง แต่สุดท้ายเจอ นาบี เกอิต้า ฉกไปได้ เกอิต้า จี้เข้าหัวกะโหลก ก่อนตัดสินใจตะบันด้วยซ้าย บอลพุ่งเป็นจรวดเข้าประตูไปเลย หงส์นำ 1-0
GOAL! นาทีที่ 38 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลา เจ้าตัวเลือกไปที่เสาแรก บอลอ้อมกำแพงแล้ว เลี้ยวเข้าไปตุงตาข่ายแบบโคตรสวย ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 2-0 แบบไม่ทันตั้งตัว
GOAL! นาทีที่ 43 จากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย บอลไปตกที่ขาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สะกิดต่อมาให้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ได้ตั้งเป้าซัดระยะอย่างใกล้ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า หมดสิทธิ์รับ 3-0 เข้าไปแล้ว
GOAL! นาทีที่ 45+3 เชลซี พยายามทวงประตูคืน เมสัน เมาท์ โยนจากซ้ายแฉลบมาเข้าทาง อลอนโซ่ ป้ายให้ วิลเลี่ยน ได้ยิงด้วยซ้ายจ่อๆ อลิสซอน ยังปัดได้ บอลเข้าทาง ชิรูด์ ซ้ำไม่เหลือ สกอร์เป็น 1-3
GOAL! นาทีที่ 54 เทรนต์ อาร์โนลด์ ได้จังหวะเออร์ลี่ครอสอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว บอลโค้งเข้าไปเจอ ฟีร์มิโน่ ในจุดนัดพบ ศูนย์หน้าบราซิเลียน โขกเหน่งๆ ไม่มีเหลือ เครื่องจักรสีแดง ทะลวง 4 ลูก
GOAL! นาทีที่ 61 คริสเตียน พูลิซิช โชว์จังหวะยึกยักหลบแข้ง ลิเวอร์พูล ถึง 4 รายเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนตบด้วยซ้ายให้ แทมมี่ อับราฮัม เข้าฮอสง่ายๆ เชลซี มีลูกฮึดตามมาห่างๆ ที่ 2-4
GOAL! นาทีที่ 73 จากจังหวะทุ่มไกลทางขวาในแดนของ เชลซี บอลกระดอนพื้น แนวรับหงส์กะจังหวะกันพลาด ฮัดสัน-โอดอย ได้จังหวะจ่ายกลับมาให้ คริสเตียน พูลิซิช พักอกแล้วแตะหาช่องยิงเข้าประตูไปแบบเหนือชั้น ลูกนี้ต้องชมความสามารถเฉพาะตัวของ ดาวยิงอเมริกัน จริงๆ เชลซี ขยับสกอร์ 3-4
GOAL! นาทีที่ 84 ลิเวอร์พูล เล่นเกมสวนกลับมาน่ากลัว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แตะบอลแล้ววิ่งแข่งทางตรง หนี จอร์จินโญ่ มาได้ ก่อนครอสต่ำๆ บอลผ่านมาถึง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตัวสำรองได้แปจ่อๆ เกป้า พยายามปัดแล้วแต่เอาไม่อยู่ หงส์แดง ฝังไปแล้ว สกอร์เป็น 5-3
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะฟรีคิกทางซ้าย แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดโด่งมาเสาสอง เข้าเท้าของ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ ได้โอกาสยิงโล่งๆ แต่เจ้าตัวยิงแบบสัญชาตญาณกองหลังจริงๆ บอลโด่งออกหลังไปแบบน่าเสียดาย หมดเวลา 90 นาที หงส์แดง ชูถ้วยแบบหล่อๆ
ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อัปเดตล่าสุด 23 กรกฎาคม 2563
ภาพจาก SOFASCORE
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รอมานาน! ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี : พรีเมียร์ลีก – พร้อมบรรยากาศฉลองแชมป์รอบ 30 ปี
- คลิปและภาพ: 30 ปีที่รอคอย ! วินาทีที่ ลิเวอร์พูล ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก
- ผีเจ้าแต่ยังขึ้นที่ 3 ! ไฮไลท์ แมนยู 1-1 เวสต์แฮม, กรีนวูดซัด ลุ้นต่อนัดสุดท้าย
- หนูหริ่งเบิ้ลสอง ! ไฮไลท์ วัตฟอร์ด 0-4 แมนซิตี้, แตนลุ้นหนีตายเจอน่อล