บันเทิง

มิว ชี้แจงปมดราม่าโฆษณา คู่กลัฟ ส่อไปในทางเพศ

มิว ชี้แจงปมดราม่าโฆษณา คู่กลัฟ ส่อไปในทางเพศ

จากกรณีดราม่าโฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่มของคู่จิ้น มิว ศุภศิษฏ์ และ กลัฟ คณาวุฒิ หรือมิว-กลัฟ ที่มีคลิปส่อไปในทางอนาจาร และหลายคนเกรงว่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้พบเห็น จนทางแบรนด์ได้ออกมาชี้แจง และขอโทษถึงเรื่องดังกล่าว โดยการลบไลฟ์ออกจากทุกช่องทางการสื่อสารทันที และจะระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

 

ล่าสุดวันที่ 16 ก.ค.63 มิวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว หลังจากที่มาร่วมงานเปิด Shop Skechers Superstore ใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด ที่เทสโก้โลตัส เลียบทางด่วน รามอินทรา

มิวบอกว่าพอทราบกระแส แต่ยังไม่ได้ไปดูคลิปเลย แต่คอนเทนต์ที่เราถ่ายกันตอนนั้นก็ไม่มีความล่อแหลม แล้วตอนที่เรารับงานนั้นมันมีก็มีการบรีฟก่อนว่ามันมีความเหมาะสม ถ้าอันไหนที่มันไม่เหมาะสม เราก็จะปรับเปลี่ยนให้ดูซอฟต์ขึ้นให้ทุกคนสามารถดูได้

สำหรับกระแสที่ออกมามันค่อนข้างที่จะเป็นลบซะส่วนใหญ่ เพราะว่ามันส่อไปทางเพศ เนื่องจากว่าคนแคปมาเฉพาะตอนที่กลัฟยืนอยู่ข้างหลังมิว แล้วเอามือมาซักผ้าด้านหน้าบริเวณช่วงเอวของมิว?

ตอนที่เราทำกันมันก็เหมือนแค่การซักผ้าเฉยๆ เขาบอกให้เราซักผ้าด้วยกัน เหมือนว่าตอนนั้นผมเล่นเกมชนะเขาเลยให้รางวัลโดยการที่สั่งอีกคนนึงได้ ว่าให้อีกคนหนึ่งหลับตา แล้วก็หยุดซักผ้า พอมาฝั่งทางกลัฟ เขาก็เลยบอกว่าให้พี่มิวยอมน้องบ้างแล้วกัน ให้พี่มิวหลับตา แล้วก็ให้น้องมาเป็นคนซักผ้า เป็นโจทย์ที่เขาให้มา

รู้สึกไหมว่าคนแคปมาแค่เวลาตรงนั้น?

ส่วนตัวผมยังไม่เห็น แต่เมื่อกี้ที่ดูภาพจากพวกพี่ๆ ทำให้ดูก็น่ากลัวนิดนึง

อีกภาพหนึ่งที่เป็นงานขาย ที่มีไฟส่อง หลายคนบอกว่าภาพมันดูไม่เหมาะสม เป็นภาพที่มีคนหนึ่งยืน มีคนหนึ่งนั่งคุกเข่า มันเลยเกิดเป็นภาพเงาที่ไม่สุภาพสักเท่าไหร่?

ตอนนั้นน้องกลัฟผูกเชือกรองเท้า ภาพที่ออกไปอาจจะดูไม่เหมาะสม ผมว่าเราอาจจะต้องกลับมาระวังเรื่องคอนเทนต์ให้มากขึ้น เพราะว่าบางทีการที่เราสนุกเกินไป อาจจะสื่อไปในทางภาพที่ไม่ดี อันนี้เราก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายเลย ทั้งเราด้วย ทางฝั่งผู้จัดการของเรา แล้วก็ทางฝั่งลูกค้าต่างๆ ด้วย เราอาจจะต้องมาคุยกันมากขึ้นเรื่องการบรีฟงานเรื่องเกมส์กิจกรรมต่างๆ

แต่ตอนที่เราทำกิจกรรม เราไม่ได้รู้สึกว่าภาพที่ออกมาจะสื่อไปแบบนั้น?

ตอนนั้นเรายืนแล้วน้องผูกเชือกรองเท้า เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

ตอนนี้เรากลับมาเป็นคนดู แล้วเราไปเห็นคลิปนั้น เรามองว่าภาพมันแรงไหม?

ถ้าผมเป็นคนดูเป็นคนทั่วไปผมก็อาจจะรู้สึกว่ามันแรงเหมือนกัน อย่างที่บอกไปว่าในอนาคตก็ต้องคุยกันมากขึ้นกับทุกๆ ฝ่าย ทั้งคนที่บรีฟงานและคนที่วางแผนกิจกรรมต่างๆ และความเหมาะสมของเราว่าสามารถทำได้ในระดับไหน แน่นอนว่ามันจะต้องมีการที่ตอบแทนแฟนคลับบ้าง แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย

แล้วปกติคู่เราเซอร์วิสแฟนคลับมากน้อยแค่ไหน?

ผมไม่รู้ว่าอะไรคือมากน้อย เราแค่รู้สึกว่าเราทำไปโดยธรรมชาติ เพราะว่าผมกับกลัฟก็สนิทกันอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่าทำอะไรกันได้หลากหลาย เล่นกันได้หลากหลาย และแฟนคลับมาให้กำลังใจเรา คอยสนับสนุนเรา เราก็รู้สึกว่าอยากจะให้เขามีความสุขที่ได้มาดูเรา สำหรับคนที่วิจารณ์ ผมรู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิ์วิจารณ์ได้อยู่แล้ว แล้วก็เรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่อาจจะสื่อไปในทางไม่ดี เรารู้สึกว่ามันไม่มีใครผิดมันอยู่ที่ความเหมาะสมมันเป็นเรื่องของรสนิยม

ได้คุยกับกลัฟเรื่องนี้ไหม?

ได้คุยกันอยู่แล้ว ถามว่าเขานอยด์ไหม ก็ไม่นะ ก็น่าจะเหมือนผมที่ไม่ค่อยมีเวลามาเสพ ดราม่า หรือตามเฟสบุ๊ก เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมีคนมาอัพเดตให้ฟังมากกว่า แล้วตอนนี้ก็รู้สึกว่าเราอยากจะเน้นการทำงานมากกว่า

 

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button