ผลตรวจน้องชมพู่ ไม่โดนล่วงละเมิด ตร.เตรียมเรียก 2 สื่อ ปมละเมิดสิทธิ
วันที่ 15 ก.ค.63 มีรายงานว่า คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ. เป็นประธานเชิญ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายจากหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนพบศพบนภูเขาเหล็กไฟ ได้รับการยืนยันว่า ตำรวจสืบสวน-สอบสวนคดีนี้ ตามพยานหลักฐานที่ปรากฎข้อเท็จจริง ไม่มีลักษณะของการหว่านแห
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า กรณีชุดคลี่คลายคดีที่เรียกบุคคลเข้าให้ปากคำ และตรวจดีเอ็นเอเกือบ 1,000 คน ไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนบุคคลใด เพราะทุกคนยินยอม เพื่อประโยชน์ในทางคดี รวมถึงการกล่าวย้ำ ไม่มีการตั้งธง-จับแพะ หรือมีเหตุกดดันใดๆ โดย 900 กว่าคนเจ้าหน้าที่เรียกมาไม่ได้ถูกสอบสวน แต่เป็นการพูดคุยซักถาม หากคนใดมีประโยชน์ จึงเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำในลักษณะพยานในสำนวนการสืบสวน
ส่วน 63 คน ไม่ได้บังคับแต่เป็นการพูดคุยด้วยความสมัครใจ และไม่มีการกระทำใดที่เป็นการละเมิดสิทธิ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครบอกว่าถูกตำรวจคุกคาม ในทางกลับกันชาวบ้านในหมู่บ้านอยากรู้ความจริงว่าเด็กขึ้นไปบนเขาได้อย่างไรหากไม่สามารถหาผู้กระทำผิด ก็สามารถพักการสอบสวนตาม ป.วิอาญาได้ แต่การทำงานยากขึ้น เพราะสื่อมวลชนที่พยายามนำเสนอทุกประเด็น แม้แต่การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งตำรวจยังไม่มีข้อสรุป
รองผบ.ตร. ได้ชี้แจงกรณีกมธ.สอบถามถึงการชันสูตรศพ 2 ครั้งที่แตกต่างกัน เนื่องจากครั้งแรกญาติยังติดใจสงสัยว่ามีข้อมูลเพิ่มเติม จากผู้เชี่ยวชาญอื่นหรือไม่ ครอบครัวจึงร้องขอให้ผ่าเป็นครั้งที่ 2 หากผลขัดแย้งกันต้องหาคำอธิบาย มีแต่ข่าวที่นำเสนอไปเองว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจยังไม่เคยสรุปแบบนี้ เพราะการผ่าครั้งที่ 2 ผลอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การขนย้าย แพทย์ที่ชันสูตรมีคำอธิบายอยู่แล้ว ทุกวันนี้เป็นการสรุปคดีกันเอาเอง
ประเด็นละเมิดทางเพศเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวน ส่วนศพน้องไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร มีแค่ 2 ทาง คือไปเองหรือมีใครพาไป ต้องมาดูเปอร์เซ็นต์ ความเป็นไปได้ว่าน้องสามารถไปเองได้หรือไม่ ตำรวจยังไม่เคยสรุปว่าศพไปอยู่ตรงนั้นวันไหนเมื่อไหร่ เพราะอาจจะไปพักที่อื่นมาก่อนก็ได้ ทางน.พ.ภาณุวัฒน์ ชุติวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และอาจารย์ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ท้วงติงการทำหน้าที่ของสื่อ โดยเฉพาะความพยายามในการสอบถามข้อมูลจากพยานและสร้างแรงกดดันในทางคดี และทางกมธ.เตรียมเรียกสอบสื่อมวลชน 2 ช่อง เพื่อชี้แจงการทำหน้าที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
ที่มา: thaipbs
