ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดกลางสัปดาห์นัดที่ 31 ของฤดูกาล เป็นทางด้าน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทร์ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ดาบคู่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งหากใครเก็บสามคะแนนสำคัญนี้ได้ จะมีโอกาสลุ้นไปเล่นถ้วยยุโรปมายิ่งขึ้น
ฝั่งเจ้าบ้าน ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็จัดตัวแบบสมใจแฟนบอลด้วยการส่งเอา พอล ป็อกบา ลงสนามทีเดียวพร้อมกับ บรูโน่ แฟร์นานเดส รวมถึงแนวรุกอย่าง เมสัน กรีนวูด ก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วย
ทางด้านทีมเยือน คริส วิลเดอร์ ขาดทั้ง จอห์น อีแกน กองหลังตัวสำคัญของทีม ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ติดเงื่อนไขสัญญายืมตัว ห้ามลงพบต้นสังกัดที่ยิมตัวมาจึงเป็นโอกาสของ ไซม่อน มัวร์ ที่ได้ลงทำหน้าที่แทน
GOAL !!! เปิดฉากครึ่งแรกมา 7 นาที แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายบอลมาที่เสาแรกให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ชาร์จเข้าไปตุงตาข่าย
จากนั้นนาทีที่ 13 แมนยูฯ น่าได้ประตูที่สอง เมื่อ มาร์กซิยาล กระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เติมขึ้นมายิงด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ โซลชาร์ ถึงกับเอามือตบที่เก้าอี้ม้านั่งสำรองเลยทีเดียว
นาที่ที่ 18 แมนยูฯ ได้ฟรีคิกข้างเขตโทษฝั่งซ้าย บรูโน แฟร์นานเดส ซัดด้วยขวา บอลพุ่งแรง แต่ ไซมอน มัวร์ ยังปัดออกไปได้
ต่อมานาทีที่ 20 พอล ป็อกบา งัดบอลเข้าเขตโทษอย่างแม่นยำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วอลเลย์ด้วยขวาแต่เบาเกิน ไซมอน มัวร์ รับได้สบาย
และในนาทีที่ 31 ฝั่งทีมเยือน เชฟฟิลด์ฯ ได้ลองลุ้นบ้างจาก จอห์น ลุนด์สแตรม ตั้งป้อมยิงไกลด้วยขวา บอลเหินข้ามคานออกไป
GOAL !!! เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 44 แมนยูฯ หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อารอน วาน บิสซากา ได้บอลในเขตโทษฝั่งขวาก่อนหาจังหวะ เปิดบอลเรียดเข้ากลางให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ซัดเข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อยู่ 2-0
ครึ่งหลัง นาที 55 เจ้าถิ่นได้ลุ้นเม็ดที่สามหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายบอลสั้นๆเข้าไปในกรอบให้ เมสัน กรีนวู้ด โยกเข้ากลางก่อนซัดด้วยซ้ายไปแฉลบแข้งดาบคู่ออกหลัง
นาที 61 ปอล ป็อกบา โชว์สเต็ปแหวกบอลจากนอกกรอบเข้าไป แต่จังหวะสุดท้ายทำบอลหลุดไปเข้าเท้า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ซัดด้วยขวาหลุดกรอบออกไป
จากนั้นนาทีที่ 64 แมนยูฯ มาอีกแล้ว ลุค ชอว์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี แม็คไกวร์ โหม่งข้ามคานออกไป
นาทีที่ 71 โอกาสของ ปีศาจแดง อีกครั้งจากจังหวะที่ เมสัน กรีนวูด กระชากบอลตัดเข้าด้านในแล้วตัดสินใจยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัด บอลไม่โค้งดั่งใจ หลุดออกหลังไปไกล
นาที 74 สกอร์ของเจ้าบ้านนำห่างเป็น 3-0 บอลเริ่มจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส สะกิดต่อให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก่อนจะเล่นชิ่งให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายทะลุช่องให้ มาร์กซิยาล หลุดเข้าไปชิพบอลผ่านตัว ไซม่อน มัวร์ อย่างเหนือชั้นเข้าไป เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ และแฮตทริกครั้งแรกในสีเสื้อของ แมนฯยูไนเต็ด และเป็นแฮตทริกแรกของ “ผีแดง” ในรอบ 7 ปี ต่อจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
GOAL !!! นาทีที่ 74 แมนยูฯ นำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษให้ อองโตนี มาร์กซิยาล หลุดไปยกบอลข้ามผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างเหนือชั้น กลายเป็นแฮตทริกแรกของตัวเอง และแฮตทริกแรกของสโมสรรอบ 7 ปีของ ฟาน เพอร์ซี่ นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป
นาทีที่ 80 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจเปลี่ยนตัวรวดเดียว 5 ตัวลงสนามพร้อมกัน โดยส่งเอาทางด้าน โอเดียน อิกาโล่, อันเดรียส เปเรร่า, สกอตต์ แท็คโทมิเนย์, แดเนียล เจมส์ และ ฆวน มาต้า ลงมาแทน พอล ป็อกบา, เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
แมนยู ยังมีโอกาสได้บุกมากกว่า และยังไม่มีประตูเพิ่ม จากบรรดาตัวสำรองที่ส่งลงมาใหม่
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน อยู่อันดับ 5 ไล่จี้ เชลซี อันดับ 4 เหลือ 2 คะแนน
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนยู (4-2-1-3) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – เนมานย่า มาติช, พอล ป็อกบา – บรูโน่ แฟร์นานเดส – เมสัน กรีนวูด, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ไซม่อน มัวร์ – คริส บาแชม, ฟีล จากีลก้า, คริว แชมบ้า – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น เฟล็ค, เอ็นด้า สตีเว่นส์ – เดวิด แม็คโกดิค, ลีส มูสเซ่ต์
ไฮไลท์ แมนยู 3-0 เชฟฯ ยูไนเต็ด
