เปิ้ล หัทยา น้ำตาไหล ตั้ว ศรัณยู จากไปกะทันหัน (คลิป)
เปิ้ล หัทยา น้ำตาไหล ตั้ว ศรัณยู จากไปกะทันหัน (คลิป)
พี่ตั้วมีอาการปวดหลัง จึงค้นพบกระดูกข้อที่สามยุบลง แต่คุณหมอบอกไม่จำเป็นต้องผ่าตัด เพราะกระดูกอื่นๆ ยังแข็งแรงอยู่ แต่มาจากลิ่มเลือดด้วย ว่าเกิดจากอะไร เลยตรวจร่างกายอย่างอื่น ก็พบว่าค่าตับขึ้นสูง เพราะพี่ตั้วเป็นไวรัสตับอักเสบบีมาก่อนแต่งงาน ก็ดูแลตัวเองมาตลอด แต่ 2 ปีหลังไม่ได้เช็กร่างกายเลย ปรากฏว่าไวรัสตับอักเสบบีกลายพันธุ์เป็นมะเร็ง เราก็รับรู้แต่แรก เพราะเราตรวจร่างกายอื่นๆ แล้ว
แต่ตัวพี่ตั้วก็งงว่ามันเกิดได้ไง เพราะเค้าดูแลตัวเองดีมากตลอด มันลามไปถึงกระดูก ซึ่งเป็นกระดูกข้อที่ 3 ไปจนถึงที่ 11 เค้ารักษามาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาที่ปอด ตอนที่ปวดกระดูก คุณหมอบอกว่าน่าจะอยู่ในระยะที่ 3 น่าจะรักษากันได้ ก็พยายามให้ยาที่สามารถคุมการกระจายของตับก่อน ทั้งหมด 6 เข็ม ก็ดีขึ้น พี่ตั้วออกไปทำงานต่อได้ช่วงเดือน ก.พ. และเริ่มเปิดละครเรื่องใหม่ และจากนั้นรู้สึกเริ่มปวดสะบัก ปวดขา หมอก็บอกให้พัก เพราะมันมีเรื่องของกระดูกทรุดเพิ่ม ก็ทำการฉายแสง
แต่ตัวตับมันใกล้กระเพาะ ใกล้กับท้อง ทำให้ไม่ค่อยอยากทานอาหาร พอเช็คร่างกายมาแคลเซียมสูง มันทำลายการพักผ่อน ไม่อยากนอน ไม่อยากกิน ตอนแรกอาการดีขึ้นแล้ว ออกกองได้ ต่อมาอาการเริ่มทรุดหลังจากที่ต้องไปฉายแสงมากขึ้น แต่ช่วงนั้นเจอโควิดพอดี ก็ดูแลกันเอง เลยไม่ได้บอกใครมาก มีคนทักแต่ก็ไม่ได้พูด ทุกคนกำลังเครียดกับโควิด
ที่ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะน้ำหนักลด ทานไม่ได้ แคลเซียมสูง พี่ตั้วตื่นมาเค้าจะพูดบ่อยๆ ว่าเริ่มคิดถึงงาน เราก็บอกว่าตอนนี้ต้องพักผ่อน หมอบอกให้พัก 6 เดือนถึงจะออกกองได้ ทุกคนก็ต้องพักกองเพราะโควิด และเริ่มทานอาหารไม่ได้ หมอก็ให้ไปพักที่โรงพยาบาลเมื่อวันพุธที่แล้ว เอกซเรย์ปอด และนัดทำซีทีสแกนเพื่อเปลี่ยนยาตัวใหม่ แต่สุดท้ายเชื้อมันมาจากปอด
พี่ตั้วเสียเร็วไป คิดว่าการมาโรงพยาบาลครั้งนี้ทำให้เค้าแข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมเช็กร่างกาย ก่อนการเปลี่ยนยา ไม่ได้คิดอะไรเลย เราพูดคุยกันตลอด แต่พี่ตั้วพูดช้าลง อาจจะเนื่องจากว่าแคลเซียมสูง ระบบความคิดช้าลง แต่เค้ายังพูดได้ เค้าบอกคุณหมอว่าอยากกลับไปเหมือนเดิม จนคุณหมอเริ่มบอกว่า พี่ตั้วอยากเจอใครพิเศษไหม เราก็ไม่แน่ใจ ก็โทรหาพี่ชายพี่ตั้ว
ด้านพี่เอกบอกว่า รู้ตอนนั้น ว่าตั้วเข้าโรงพยาบาลและล้มไป ก็ได้โทรคุยกับตั้วเขาบอกว่า ไม่มีอะไร เราก็บอกว่าดีแล้ว เดี๋ยวอีก 10 วันเจอกัน มารู้อีกทีตอนเปิ้ลบอกว่า กินไม่ค่อยได้ เพราะตั้วไม่บอกใครเลย ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน เขาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ญาติก็ไม่รู้ ลูกก็ไม่รู้ เพิ่งมารู้ทีหลัง เราเองก็มารู้ตอนหลัง ก็ได้พูดคุยกันช่วงหนึ่ง อาการก็โอเคถึงแม้จะพูดช้าลง ใช้การยักคิ้ว ยกมือได้
ช่วงสุดท้ายก่อนที่ตั้วจะไป ตั้วนอนนิ่งๆ เหมือนหลับไปเฉยๆ เราก็บอกว่าหลับไปก็ได้นะ ไปตื่นที่ไหนก็ได้ ทุกคนมาส่งกันพร้อมแล้ว เราก็บอกเหมือนไปเที่ยว เดี๋ยวก็เจอกัน ไม่เป็นไร ไม่มีใครต้องห่วง สุดท้ายตั้วก็ค่อยๆ ไป คุณหมอบอกว่า เค้าพยายามสู้ 2-3 วันสุดท้าย เค้าสู้มาตลอด หลัง 6 โมงเย็น ทุกคนที่เค้าอยากเจอมาจนครบ ประมาณทุ่มกว่าๆ การเต้นของหัวใจก็ค่อยๆ ลดลง เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนเขาค่อยๆ สงบ