ข่าวภูมิภาค

ผอ.เข้ามอบตัว คดีลวนลามนร.หญิง ยันไม่ได้ทำอนาจาร

ผอ.เข้ามอบตัว คดีลวนลามนร.หญิง ยันไม่ได้ทำอนาจาร

จากกรณีมีคลิปเผยแพร่ทั่วโลกออนไลน์ เป็นเหตุการณ์ขณะผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ยืนอยู่ด้านหลังเด็กนักเรียนหญิง จากนั้นได้ทำท่าก้มพร้อมลดมือลงมาคล้ายกับลังล้วงร่างกายของนักเรียนหญิง และจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ลวนลามนักเรียนหญิง เพียงแค่ไปช่วยเปิดคอมพิวเตอร์ให้เท่านั้น

อ่านข่าวก่อนหน้า: ผอ.โต้คลิปฉาว ไม่ได้ลวนลามนักเรียนหญิง แค่ช่วยกดคอมพิวเตอร์

ต่อมา วันที่ 21 เม.ย.2563 นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้ นายนัฐพล ภาคกุล ที่ปรึกษาฯ และนายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ พม.เพชรบูรณ์ เดินทางไปรับหนังสือขอความช่วยเหลือจากนางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ผู้เป็นยายของน้องบี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เหยื่อที่ถูก ผอ.กระทำอนาจาร เพื่อให้ส่งตรงถึงมือรัฐมนตรีฯ โดยเร็วเพื่อจะได้เร่งเข้ามากำกับดูแลให้ความช่วยเหลือ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ พม.เพชรบูรณ์ ได้รับตัวน้องบีไปดูแลให้พักอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย ผู้เป็นยายก็ยินยอม เนื่องจากเกรงว่าอาจมีผลกระทบต่อจิตใจเด็กที่จะมีบุคคลหลายฝ่ายเข้าไปพบที่บ้านจำนวนมาก ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลจังหวัดหล่มสักได้อนุมัติออกหมายจับนายณรงค์วิทย์ พาคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหัวนาเลา หมู่ 5 ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

จากนั้นเวลา 17.00 น. นายณรงค์วิทย์ พาคำ ผอ.คนดังกล่าว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ชัยชัช แจ่มจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องสืบสวน สภ.บ้านติ้ว ไปสอบสวนต่อที่ห้องพนักงานสอบสวน

พ.ต.อ.ชัยชัช แจ่มจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมีบทลงโทษหนักจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 200,000 บาท และอีกข้อหาคือ กระทำอนาจารต่อเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเป็นการกระทำต่อศิษย์ที่อยู่ในความดูแลด้วย มีอัตราโทษหนึ่งในสามของข้อหาแรก

สำหรับคดีนี้มีการกำหนดหลักทรัพย์ประกันตัวไว้ที่ 600,000 บาท ซึ่งในคดีนี้ศาลจังหวัดหล่มสักได้อนุมัติออกหมายจับ และผู้ต้องหาทราบจึงรีบมาขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแล้ว นายณรงค์วิทย์ พาคำ ผู้ต้องหาให้การภาคเสธและขอไปต่อสู้ในชั้นศาล พร้อมยืนยันว่าตนอยู่ในคลิปดังกล่าวแต่ไม่ได้กระทำอนาจารแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะกระทำได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ที่มา: ไทยรัฐ

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button