ซันนี่ กล่าว การบูลลี่อันตรายกว่าไวรัส โดนขุดเรื่องการเมือง
ซันนี่ กล่าว การบูลลี่อันตรายกว่าไวรัส โดนขุดเรื่องการเมือง
วันที่ 27 ก.พ. ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ได้ไปร่วมงานเปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ยางโตโยไทร์ (TOYO TIRES) คนแรกในประเทศไทย ที่ห้องแกรนด์ รีเวอร์ไซด์ บอลรูม โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเรื่องที่มีคนขุดว่า เคยเป็นหนึ่งคนที่เคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วย งานนี้ซันนี่จะว่ายังไง ไปฟังกัน
ตอนนี้ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักมาก?
ผมเข้าใจในทุกๆ ด้านเลยนะ แต่ก็ไม่อยากให้มานั่งไม่พอใจกัน ไม่นู่นไม่นี่กัน ทุกคนไม่มีใครมีเจตนาที่ไม่ดีหรอก ทุกคนก็อยากปกป้องตัวเอง ไม่มีใครแบบ เอาเว้ย ติดกันให้หมด เพียงแต่ทุกคนมีไลฟ์สไตล์มีชีวิตของตัวเอง ที่เขาอยากจะเลือกใช้ ความเสี่ยงและการตัดสินใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีใครคิดไม่ดี ดังนั้นผมก็อยากให้เข้าใจกันมากกว่า
ส่วนตัวกลัวไหม?
ต่อให้อยู่ที่ไหน ถ้าจะซวยก็ซวย ไม่เกี่ยวว่าจะอยู่ที่ไหน หรือเจอใคร ไม่มีใครอยากเป็น มันเหมือนถูกล็อตเตอรี่ในทางไม่ดีมั้ง
กระทบไหม?
มีบ้าง มีหนังที่จะถ่ายแต่ถ่ายไม่ได้ ต้องไปประเทศจีนครับ จริงๆ ต้องไปถ่ายแล้ว แต่ไปไม่ได้ เลื่อนไปไม่มีกำหนดครับ
กระทบคิวงานที่วางไว้ไหม?
ไม่หรอกครับ เราต้องอยู่กับปัจจุบันไปเรื่อยๆ แค่นั้นเอง
มีน้องๆ เพื่อนๆ นักแสดงที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เจอชาวเน็ตดราม่า ได้พูดคุยไหม?
อย่างที่บอก ผมเข้าใจทุกฝ่าย คนที่เสพข่าวก็จะแพนิกไป เหมือนโรคทะลุมาตาม 4G 5G คนเราไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน ผมไม่อยากให้คำว่า รับผิดชอบต่อสังคม มาเป็นการบูลลี่ใคร มันเหมือนคุณหยิบคำนี้มาพูด เพราะคุณจะไม่ให้เขามีโอกาสในการเถียง คุณจะชี้ไปเลยว่าเขาผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกคนก็มีไลฟ์สไตล์ชีวิตต่างกัน คือมันเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่คุณบูลลี่คนด้วยคำนี้ ถ้านักท่องเที่ยวเขาดูแลตัวเองดี แต่เขาอยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยง แล้วเขาเดินทางมาประเทศเรา มันไม่ใช่ เราอยากจะเป็นคนประเภทที่ เคยดูในคลิปตามต่างประเทศไหมครับ ที่มีคนต่างชาติบอกว่า ไอ้เอเชีย ไอ้โคโรน่าไปไกลๆ เราอยากเป็นคนแบบนั้นกันเหรอ
อยากจะบอกว่ามารยาทในการสื่อสารก็สำคัญ?
ผมรู้สึกว่าดีไม่ดีสิ่งที่อันตรายกว่าไวรัสก็คือ การที่เราเหยียดกัน ทัศนคติด้านลบ หรือแม้ความโง่เขลาเล็กๆ น้อยๆ สิ่งที่สำหรับผม ผมรู้สึกว่าอันตรายกว่าไวรัส สำหรับผมนะ
นาดาวมีประกาศเหมือนกัน ห้ามรณรงค์นัดพบแฟนคลับ ระงับเดินทางต่างประเทศ?
เป็นไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน มันเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ อาจจะคาดเดาได้ว่าอาจจะไม่ หรืออาจจะใช่ แล้วการมาโจมตีก่อนที่เรื่องราวจะมี มันมีประโยชน์อะไร บริษัทมีนโยบายอะไรบ้างไม่รู้เลยครับตรงนี้
แต่ตัวซันนี่ก็ติดตามข่าวอยู่เรื่อยๆ ใช่ไหมในโลกโซเชียล?
ต้องดูครับเพราะเราเองก็ต้องเข้าใจทุกคน คือบางคนที่เขาด่า เขาก็ด่าไม่ใช่เพราะเขาไม่มีเหตุผล เขาด่าแล้วเราเข้าใจได้ อย่างที่ผมบอกทัศนคติ วิธีคิด และการรับความเสี่ยงของแต่ละคนไม่เท่ากัน ไม่มีใครมีเจตนาที่ไม่ดีหรอกครับ ไม่มีใครไม่อยากรับผิดชอบต่อสังคมหรอก แต่มันก็คือการวิเคราะห์ความเสี่ยงของชีวิตเขาไง ชีวิตเขาก็ต้องมี ไลฟ์สไตล์เขาก็ต้องใช้
ขอถามเรื่องนึง มีคนขุดว่าก่อนหน้านี้ซันนี่เคยแสดงความคิดเห็นทางการเมือง?
มันเรื่องของเขาเลยครับ มันเป็นเรื่องของคนที่ขุด คือคนเรามันเข้าใจความคิดและวิธีคิดไม่เหมือนกัน เขาจะพูดอะไรบอกอะไรก็ได้ หรือเขาจะเข้าใจเราผิดหรือถูกแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้าเรารู้สึกมั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด และเราตั้งใจที่จะเป็นคนดีแล้ว เราจะแคร์ทำไมว่าคนอื่นจะมองเราดีหรือไม่ดี อันนี้สำหรับผมนะ เพราะเรื่องที่คนมาทะเลาะกันหรือมีปัญหากันมันไม่มีใครคิดว่าตัวเองผิดหรอก ทุกคนก็ต้องคิดว่าตัวเองถูกและทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่ ฉะนั้นมันเถียงกันไม่ลงตัวหรอกครับ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเหตุผลของตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เราต้องระวังเรื่องการแสดงความเห็นมากขึ้นไปด้วยไหม?
ไม่รู้จะระวังตัวหรือเปล่า ก็ไม่รู้จะพูดอะไร
คือเราคิดว่าเป็นเรื่องมุมมองของแต่ละคน แล้วแต่คนอื่นจะมองยังไง?
ใช่ครับ ก็คือถ้าหากเราตั้งใจจะเป็นคนดี และเราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับสังคม ดังนั้นเราจะแคร์ทำไมว่าคนอื่นจะเห็นเราดีหรือไม่ดี เข้าใจผมใช่ไหมครับ อันนี้สำหรับผมนะ
ถือว่าเราเป็นประชาชนคนหนึ่งที่รู้สึกอะไรก็สามารถโพสต์ได้?
ไม่รู้ว่าโพสต์ได้หรือโพสต์ไม่ได้นะครับ แต่มันก็แค่คงไม่เข้าหูของคนคนนั้นก็เท่านั้นเอง คือถ้าจะมีปัญหา ผมรู้สึกว่าคนที่ปลุกปั่นให้คนทะเลาะ อันนี้น่าจะต้องโทษเขามากกว่าอีก โทษกว่าคนที่บอกว่าผมเข้าใจคุณ ผมไม่ทะเลาะกับคนเพราะเรื่องนี้ คนที่ทำให้คนทะเลาะกันมันน่าโมโหกว่าอีก สำหรับผมนะ
เราก็สามารถแสดงความเห็นได้?
ก็มันคือประชาธิปไตยใช่ไหมครับ ถ้าผมทำอย่างนี้ไม่ได้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยสิ ใช่ไหม