คาซัคสถาน แนะเลี่ยงคนไทยเดินทาง กักตัว 14 วัน ตรวจสอบเชื้อโควิด-19
วันที่ 20 ก.พ. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา ก็ได้ประกาศเรื่อง มาตรการกักกันโรคสำหรับบุคคลที่เดินทางจากประเทศไทย มีรายละเอียดดังนี้
เนื่องจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2563 รัฐบาลคาซัคสถานได้ลงนามในคำสั่งจำแนกบุคคลที่เดินทางเข้าสู่สาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นสามกลุ่ม ซึ่งจะมีมาตรการในกักกันตัวบุคคล ดังนี้
กลุ่มที่ 1 : กลุ่มคนที่เดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะต้องถูกกักกันในบริเวณที่ทางการคาซัคสถานกำหนดเป็นเวลา 14 วัน และเมื่อพ้นจากการกักกันแล้ว จะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัยอีก 10 วัน (ทางโทรศัพท์)
กลุ่มที่ 2 : กลุ่มคนที่เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มากกว่า 10 กรณี ได้แก่ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จะต้องถูกกักกันในบริเวณที่พักของตนเป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์มาตรวจอาการที่ที่พักเป็นประจำทุกวัน และเมื่อพ้นจากการกักกันที่ที่พักแล้ว จะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัยอีก 10 วัน (ทางโทรศัพท์)
กลุ่มที่ 3 : กลุ่มคนที่เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 น้อยกว่า 10 กรณี ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แคนาดา อินเดีย ฟิลิปปินส์ อิตาลี สเปน ฟินแลนด์ เนปาล กัมพูชา
ศรีลังกา สวีเดน เบลเยียม อียิปต์ จะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัย 24 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงคาซัคสถาน (ทางโทรศัพท์) ทั้งนี้ รายชื่อประเทศในกลุ่มต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 รัฐบาลคาซัคสถานได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติม ดังนี้ สำหรับบุคคลที่เดินทางมายังคาซัคสถานจากประเทศในกลุ่มต่างๆ ข้างต้นโดยใช้เวลาพำนักอยู่ในคาซัคสถานน้อยกว่าเวลาการกักกันที่กำหนดสำหรับกลุ่มประเทศนั้น รัฐบาลคาซัคสถานจะกักกันตัวบุคคลนั้นๆ ตลอดช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในคาซัคสถาน นอกจากนี้ สำหรับคณะทางการจากประเทศต่างๆ ในกลุ่มทั้งสามกลุ่ม รวมทั้งผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ นักบินของสายการบิน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัย 24 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงคาซัคสถาน (ทางโทรศัพท์)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการเพื่อบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังสาธารณรัฐคาซัคสถานหากไม่มีความจำเป็น และสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามสถานการณ์การออกมาตรการที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลคาซัคสถานต่อไป ทั้งนี้ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ thaiembassy.tse@mail.mfa.go.th โทรศัพท์ +7 775 069 87 15 และเฟซบุ๊คเพจ Royal Thai Embassy, Astana
